มีคุณผู้หญิงในหลาย ๆ คนที่อาจจะมีความเข้าใจที่ผิด หรือมีการทานยาคุมฉุกเฉินที่ผิดวัตถุประสงค์ โดยวัตถุประสงค์หลักในการผลิตยาในชนิดนี้จะถูกทำขึ้นมาเพื่อการมีเพศสัมพันธ์ หรือการเกิดการหลั่งเข้าไปภายในช่องคลอดจากในกรณีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการถูกข่มขืน กรณีการลืมรับประทานยาคุม อุบัติเหตุหรือข้อผิดพลาดของถุงยางอนามัย กรณีของการใช้ยาคุมในประเภทอื่น ๆ ซึ่งมีการเสื่อมสภาพ หรือหมดอายุ เป็นต้น

– ข้อมูลของ ยาคุมฉุกเฉิน
แต่เดิมนี้เราจะทราบได้ว่ายาคุมฉุกเฉินจะมีชื่อเรียกว่ายาคุมหลังมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งในปัจจุบันจะได้ถูกปรับเปลี่ยนให้มาเป็นชื่อ ซึ่งจะถูกนำมาใช้ตามแต่ละรายการที่เราได้กล่าวไปในข้างต้น โดยเราจะพบได้ว่าประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นจากการทานยาคุมฉุกเฉิน จะมีความสามารถในการป้องกันที่ด้อยกว่าการป้องกันหรือการคุมกำเนิดในรูปแบบปกติ ทั้งที่เกิดขึ้นจาก การกิน การฝัง หรือการฉีด นั้น การทานยาฉุกเฉนจึงจะสามารถป้องกันการกำเนิดได้มากถึง 99 เปอร์เซ็นต์ แต่ในกรณีของการรับประทานยาคุมฉุกเฉิน จะมีความสามารถป้องกันได้เพียงแค่ 75-85% เท่านั้น
ซึ่งเราจะพบได้ถึงปัจจัยที่จะส่งผลในเรื่องของประสิทธิภาพในการทานยาคุมฉุกเฉิน ที่เราจะต้องทำการพิจารณาอยู่ 3 ส่วน ที่มักจะมีการพูดถึงก็คือ น้ำหนักตัวของผู้ใช้ยา ในการทานยานี้ซึ่งจะถูกแนะนำให้ผู้ที่ควรทานมีน้ำหนักน้อยกว่า 75 กก.ระยะเวลาในการทาน ควรจะต้องมีการคุมกำเนิดจากการรับประทานยา ในระหว่าง 72 ถึง 120 ชั่วโมง หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ แต่จะส่งผลดีที่สุดควรรับประทานก็ต่อเมื่อหลังมีเพศสัมพันธ์ทันที และไม่ควรจะทำการมีเพศสัมพันธ์ซ้ำอีกครั้งหลังจากที่มีการทานยาไปแล้ว เพราะอาจจะส่งผลในเรื่องของโอกาสในการตั้งครรภ์ได้สูงขึ้น
จากการศึกษาเพิ่มเติมเราจะพบได้ถึง กระบวนการทำงานจากการรับประทานยาคุมฉุกเฉิน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในบริเวณปากมดลูก ซึ่งจะทำให้มูกในบริเวณนั้นมีความข้นเหนียวเพื่อเป็นการต่อต้าน หรือเป็นป้องกันไม่ให้อสุจิไปสามารถไปผสมกับไข่ได้โดยสะดวก ทั้งยังเป็นตัวยาที่มีส่วนช่วยในการเปลี่ยนแปลงเยื่อบุผนังมดลูก ทำให้เกิดการฝังตัวของตัวอ่อนได้ยากขึ้น ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงท่อนำไข่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการตกไข่ หรือเกิดการปฏิสนธิภายในได้นันเอง
สำหรับข้อควรระวัง หรือข้อห้ามในการทานยาคุมฉุกเฉิน ยังไม่พบเห็น และจะไม่ส่งผลในใดที่จะมีผลร้ายต่อร่างกาย หรือเราจะพบได้ถึงการยืนยันทางงานวิจัยว่า ทานยาคุมฉุกเฉินจะไม่ส่งผลต่อการเกิดขึ้นของมะเร็งในทุก ๆ ชนิด แต่จะพบได้ถึงกรณีของผู้ที่ประสบปัญหาอาการป่วยมะเร็งบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ ทั้งที่เกิดขึ้นจากบริเวณปากมดลูกรังไข่ หรือโพรงมดลูกทางแพทย์ จะไม่แนะนำให้บุคคลในกลุ่มนั้นทานยาคุมฉุกเฉิน เนื่องจากตัวยาหรือฮอร์โมนที่ได้รับประทานเข้าไป อาจจะส่งผลช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ในบริเวณนั้นได้นั่นเอง
ขอขอบคุณ รูปภาพจาก : pharmacy.mahidol.ac.th
#การออกกำลังกาย #TipTrick #การดูแลสุขภาพ #ยาคุมฉุกเฉิน