คนไทยเรานั้นส่วนใหญ่แล้วเป็นสายปาร์ตี้ที่ชื่นชอบออกไปดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสนุกสนานอย่างเต็มที่ในช่วงเวลากลางคืน บางครั้งไม่กลางคืนเราก็ยังสามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้กับชีวิตได้ แต่อย่างไรก็ตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสมและไม่ถูกต้องซักเท่าไหร่อาจทำให้เราต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพที่ยากจะแก้ไขในอนาคต โดยเฉพาะปัญหาไขมันพอกตับที่สายดื่มทั้งหลายอาจเคยเผชิญหน้ากับพวกมันมาแล้ว เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับภัยเงียบที่คนไทยหลายคนต้องเผชิญกันหรือว่ามันคืออะไรและอันตรายมากแค่ไหน
ทำความรู้จักกับโรคไขมันพอกตับ โรคที่สามารถเกิดขึ้นได้จากพฤติกรรมการใช้ชีวิต
ไขมันพอกตับเป็นปัญหาสุขภาพที่พบเจอได้บ่อยในคนไทย อาการที่อธิบายให้เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือมีการพบว่าไขมันจำนวนหนึ่งเกาะอยู่บริเวณด้านนอกของตา ซึ่งไขมันดังกล่าวนั้นเกิดจากปริมาณน้ำตาลในร่างกายที่สูงกว่าปกติที่ตับมีการสร้างออกมา ส่งผลให้มีภาวะตับทำงานผิดปกติและมีไขมันเกาะอยู่บริเวณเนื้อของตับนั่นเอง ผู้ที่มีความเสี่ยงจะเป็นภาวะดังกล่าวนั้นจะประกอบไปด้วยผู้ที่มีน้ำหนักเกินกว่ามาตรฐานผู้ที่รับประทานอาหารประเภทน้ำตาล คาร์โบไฮเดรต และไขมันเลวอยู่เป็นประจำอย่างเช่นอาหารทอดอาหารมัน น้ำหวาน น้ำอัดลม ขนมปัง เบเกอรี่ ผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลังกายจนมีอัตราเผาผลาญพลังงานต่ำ ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมไปถึงสูบบุหรี่อยู่เป็นประจำ นอกจากพฤติกรรมเหล่านี้แล้วยังสามารถเกิดขึ้นได้จากผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้วอย่างเช่นผู้ป่วยความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง ผู้ที่ต้องรับประทานยาติดต่อกันเป็นเวลานานโดยเฉพาะยาฮอร์โมนทดแทนและยาในกลุ่มสเตียรอยด์ สามารถพบได้บ่อยในกลุ่มคนวัยกลางคนตั้งแต่อายุ 45 ปีไปจนถึง 50 ปีซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของเรามีระบบเผาผลาญพลังงานต่ำลง อาการที่เกิดขึ้นนั้นไม่ค่อยพบเห็นสักเท่าไหร่เราจึงเรียกมันว่าภัยเงียบ เนื่องจากในระยะแรกนั้นเราจะไม่รู้สึกถึงอาการเจ็บป่วยเลยแม้แต่น้อย ต้องรอจนถึงตับอักเสบที่เราจะเริ่มรู้สึกปวดเมื่อยตามตัว เบื่ออาหาร รู้สึกอ่อนเพลียอยู่ตลอดเวลา มีไข้ต่ำ คลื่นไส้อาเจียน อาจมีอาการปวดท้องใต้ชายโครงขวาร่วมด้วย หากอักเสบหนักก็จะมีอาการใกล้เคียงกับโรคดีซ่านนั่นก็คือตัวเหลืองตาเหลือง อุจจาระมีสีซีดแต่ปัสสาวะมีสีเข้ม
ป้องกันอย่างไรให้ปลอดภัยจากโรคไขมันพอกตับ
หากคุณไม่ต้องการเป็นโรคไขมันพอกตับก็มีวิธีการป้องกันมากมายไม่ว่าจะเป็นการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารโดยหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันเลว น้ำตาล และคาร์โบไฮเดรต อย่างเช่นของปิ้งของทอด ขนมเบเกอรี่ เครื่องดื่มน้ำตาลสูง หันมาออกกำลังกายอยู่เป็นประจำอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ ลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เข้าตรวจสุขภาพประจำปีอยู่เสมอ หากมีความจำเป็นในการรับประทานยาให้ปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีการหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาเกี่ยวกับตับในอนาคต
#การดูแลตัวเอง #สุขภาพน่ารู้ #ไขมันพอกตับ