ในช่วงเวลานี้ผู้คนได้หันมาทำความเข้าใจและให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตกันมากขึ้นกว่าเดิม ความเป็นจริงแล้วผู้ที่มีอาการป่วยทางจิต

ไบโพลาร์ อาการทางจิตที่หลายคนมองว่าอันตรายแต่ไม่ได้เป็นแบบนั้น 

ในช่วงเวลานี้ผู้คนได้หันมาทำความเข้าใจและให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตกันมากขึ้นกว่าเดิม ความเป็นจริงแล้วผู้ที่มีอาการป่วยทางจิตที่มีปัญหาจากสารเคมีในสมองนั้นไม่ได้น่ากลัวเหมือนกับผู้ป่วยจิตเภทที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ถึงขนาดนั้นแต่อย่างใด และมันก็ค่อนข้างน่าเห็นใจสำหรับผู้ป่วยไบโพลาร์ที่มักจะถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดอยู่เสมอ ทั้งที่ความจริงแล้วอาการของโรคดังกล่าวไม่ได้ทำให้เกิดอาการคุ้มคลั่งหรือเป็นอันตรายต่อผู้อื่นได้ถึงขนาดนั้นแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้เราจึงจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับโรคดังกล่าวให้มากขึ้นกัน

ทำความรู้จักกับโรคไบโพลาร์ โรคอารมณ์สองขั้วที่ไม่ได้หมายถึงเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย 

โรคไบโพลาร์นั้นมีชื่อภาษาไทยว่าโรคอารมณ์สองขั้ว มันทำให้หลายคนมองว่ามันเป็นอาการคุ้มดีคุ้มร้ายคืออยู่ดีๆ ก็มีอาการคุ้มคลั่งขึ้นมา แล้วอยู่ดีๆ ก็มีอารมณ์เศร้า อยู่ดีๆ ก็มีอารมณ์มีความสุข อาการของโรคดังกล่าวนั้นเกิดจากความไม่สมดุลของสารเคมีในสมองซึ่งไม่ได้เปลี่ยนไปในวินาทีเดียวแต่ใช้เวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ขึ้นไปในการเปลี่ยนขั้วอารมณ์กันเลยทีเดียว ลักษณะของอาการดังกล่าวนั้นจะสามารถแบ่งอารมณ์ได้เป็น 2 ขั้วประกอบไปด้วยอารมณ์ขึ้น จะเป็นช่วงเวลาที่ผู้ป่วยนั้นรู้สึกมีพลัง กระฉับกระเฉง สามารถทำทุกอย่างได้อย่างเต็มที่ แต่ปัญหาก็คือไม่มีสมาธิจดจ่อ ถึงจะสนุกสนานอยู่ตลอดเวลาแต่ก็มีอาการหงุดหงิดผิดปกติเช่นเดียวกัน ส่วนอารมณ์อีกขั้วนั้นเรียกว่าอารมณ์ตก ภาวะอาการจะเหมือนกับโรคซึมเศร้านั่นก็คือมีอาการเนือยนิ่ง รู้สึกไม่อยากจะลุกขึ้นมาทำอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว ด้อยค่าตัวเอง มองว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่มีคุณค่าและไม่มีความสามารถ โดยระหว่างที่เป็นทั้งสองขั้วอารมณ์นั้นก็จะมีภาวะอื่นร่วมด้วยอย่างเช่นการรับประทานอาหารที่ผิดปกติไม่ว่าจะเป็นรับประทานอาหารมากไปน้อยไป การนอนหลับที่อาจจะนอนไม่หลับเลยหรืออาจจะนอนหลับมากผิดปกติเป็นต้น ดังนั้นโรคดังกล่าวจึงกลายเป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันเป็นอย่างมากและควรที่จะได้รับการรักษาโดยจิตแพทย์ที่มีความชำนาญเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง 

วิธีการรักษาโรคไบโพลาร์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด 

สำหรับคนที่รับชมภาพยนตร์หรือซีรีย์อยู่เป็นประจำอาจติดภาพจำว่าการรักษาโรคทางจิตเวชนั้นมีความน่ากลัว แต่ความเป็นจริงแล้วโรคทางจิตเวชที่มีความเกี่ยวข้องกับสารเคมีในสมองอย่างเช่นโรคไบโพลาร์ที่เรามาแนะนำกันที่วันนี้ไม่ได้มีวิธีการรักษาที่น่ากลัวแต่อย่างใด จิตแพทย์จะทำการวินิจฉัยอาการโดยใช้การรักษาด้วยการให้ยาและอาจมีการควบคู่ไปกับการใช้จิตวิทยาบำบัดอย่างเช่นการปรึกษากับนักจิตวิทยาที่ปรึกษาเป็นต้น สิ่งสำคัญก็คือเราควรรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอตามคำสั่งของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติจากการรับประทานยาเราสามารถแจ้งแพทย์ได้เพื่อหาจุดตรงกลางในการรับประทานยารักษาอาการให้เหมาะสม เพราะบางครั้งยาเหล่านี้ก็มักจะทำให้เรารู้สึกง่วงซึมหรือเนือยนิ่งผิดปกติเช่นเดียวกัน 

#ไบโพล่าร์ #การดูแลตัวเอง #โรคน่ารู้