ลมหนาวกลับมาเยื่อนอีกครั้งและถึงจะไม่ค่อยหนาวเท่าไร แต่ก็มีโรคระบาดหน้าหนาวที่ทุกเพศทุกวัยควรระวังอยู่ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ต้องระวังเพิ่มบยิ่งขึ้นหากสามารถฉีดวัคซีนป้องกัน หมั่นรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ
กลุ่มเสี่ยงโรคระบาดฤดูหนาว
ไม่ว่าจะหนาวมากหรือน้อย แพทย์ก็แนะนำให้บ้านที่มีคนกลุ่มต่อไปนี้ดูแลและเฝ้าระวังเป็นพิเศษเพราะถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงโรคระบาด ได้แก่
- เด็กเล็กช่วงอายุ 0-5 ปี
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง
5 โรคระบาดหน้าหนาว ทุกเพศทุกวัยควรระวัง
โดยกลุ่มคนเหล่านี้อาจเจ็บป่วยด้วยโรคที่มาพร้อมฤดูหนาว ดังนี้
- โรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่
สำหรับไข้หวัดใหญ่จะมีอาการรุนแรงกว่าไข้หวัดทั่วไป อาการสำคัญ คือ มีไข้ ปวดศีรษะ น้ำมูกไหล ไอ เจ็บหรือแสบคอ หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดกระดูกและกล้ามเนื้อ หรืออาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย
- โรคติดเชื้อไวรัส RSV
อาการจะเหมือนโรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ ซึ่งผู้ป่วยมักหายเองได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี รวมทั้งผู้ป่วยโรคเรื้อรังเกี่ยวกับหัวใจและปอด และผู้ป่วยภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องหากพบว่ามีไข้สูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส ไอ มีเสมหะ หายใจเร็วและแรง หอบเหนื่อยหรือมีเสียงวี๊ดขณะหายใจ ขอแนะนำว่าจะต้องรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
- โรคมือ เท้า ปาก
อาการที่สามารถสังเกตของโรคคือ ผู้ป่วยจะมีไข้ 2–4 วัน เบื่ออาหาร มีแผลคล้ายแผลร้อนในที่ปาก ลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้ม และมีผื่นเป็นจุดแดง ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นตุ่มน้ำพองใส แดง บริเวณที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ต้นขา หรือที่ก้น ไม่มีอาการคัน หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนจะทุเลาและหายเป็นปกติภายใน 10 วัน
- โรคหลอดลมอักเสบ และปอดบวม
เป็นโรคที่มีอาการครั้งกับอาการไข้หวัดใหญ่ แต่อาการสำคัญ คือ มีไข้ ไอ มีเสมหะมาก แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เหนื่อยหอบ และหากผู้ป่วยเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ รวมถึงผู้มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจจะต้องดูแลเป็นพิเศษ
- โรคอุจจาระร่วงจากเชื้อโรต้าไวรัส
ข้อสังเกตอาการที่สำคัญ คือ จะมีไข้สูง อาเจียน และถ่ายเหลวเป็นน้ำ ซึ่งอาการถ่ายเหลวจะหายภายใน 3-7 วัน หากมีอาการอื่นๆ รวมถึงหากเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง
วิธีดูแลตัวเอง ลดความเสี่ยงโรคระบาดหน้าหนาว
- หมั่นดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ และจัดเตรียมเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ กินอาหารร้อนหรืออาหารปรุงสุกใหม่
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ
- ใส่หน้ากากอนามัย/ผ้า ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำให้สะอาดหรือใช้เจลแอลกอฮอล์ 70%
- หากบุตรหลานป่วยให้พักรักษาตัวอยู่บ้าน และควรหยุดเรียนจนกว่าจะหายเป็นปกติ
และนอกจาก 5 โรคที่ยกมาในวันนี้แล้วยังมีอีกหนึ่งอย่างที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ เรื่องของการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่กลับมาอีกครั้งด้วยนะ
#สุขภาพ #การดูแลตัวเอง #ความรู้เรื่องโรค