ฮีทสโตรก (Heatstroke) หรือ โรคลมแดด โรคร้ายที่คร่าชีวิตบุคคลสำคัญไปอย่างกะทันหัน จนสังคมให้ความสนใจกับโรคนี้ ว่ามีความรุนแรงเพียงใด อาการเป็นเช่นไร ทำไมถึงคร่าชีวิตคนวัยฉกรรจ์ แข็งแรงแบบนักกีฬาไปได้อย่างง่ายดาย วันนี้เราจะทำให้ทุกท่านได้รู้จัก ฮีสโตรก กันให้มากยิ่งขึ้น เพราะมันกลายเป็นภัยเงียบใกล้ตัวไปแล้ว
ฮีทสโตรก (Heatstroke) คือ?
ฮีทสโตรก (Heatstroke) เป็นภาวะผิดปกติที่เกิดจากความร้อน (Heat-Related Illness) ชนิดรุนแรง ที่เกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิร่างกายสูงมากกว่า 40 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดอาการร้ายแรง และภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายถึงชีวิต โรคนี้เกิดจากความร้อนแบ่งออกได้หลายระยะ เช่น โรคเพลียแดด โรคตะคริวแดด รวมถึงฮีทสโตรก แต่บางครั้ง ฮีทสโตรกอาจเกิดขึ้นฉับพลัน โดยไม่เกิดอาการก่อนหน้าให้เรารู้ตัว
ด้วยอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะและระบบภายในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Arrhythmia) ตับวาย ภาวะกล้ามเนื้อลายสลาย (Rhabdomyolysis) และหลอดเลือดอุดตัน นอกจากนี้ หากไม่ได้รับการปฐมพยาบาลทันท่วงทีอาจทำให้เสียชีวิตได้ หากรอดชีวิต อวัยวะบางอย่างอาจเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้เหมือนเดิม
คนบางกลุ่มและคนที่ประกอบอาชีพบางอย่าง อาจมีความเสี่ยงของฮีทสโตรกมากกว่าคนกลุ่มอื่น เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว นักกีฬา เกษตรกร และผู้ใช้แรงงาน หรือคนที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในช่วงบ่ายที่มีแดดจัด นอกจากนี้การดื่มน้ำน้อยและดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำก็อาจเพิ่มความเสี่ยงของภาวะดังกล่าวได้
ฮีทสโตรก (Heatstroke) สัญญาณอาการเตือนให้รู้
ผู้ป่วยจะมีอาการตัวร้อนจัด ตัวแดง ผิวแห้งมากผิดปกติ หรือ เหงื่อออกมากผิดปกติ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือเป็นตะคริว ชีพจรเต้นเร็ว หายใจหอบ เกิดอาการทางประสาท เช่น สับสน กระวนกระวาย พูดไม่ชัด และชัก หมดสติ
ฮีทสโตรก ต้องปฐมพยาบาลอย่างไร
เป้าหมายของการปฐมพยาบาลอาการฮีทสโตรก คือ การลดอุณหภูมิร่างกายของผู้ที่ประสบเหตุให้ได้เร็วและมากที่สุดระหว่างรอรถพยาบาล โดยเริ่มจากนำผู้ประสบเหตุเข้าที่ร่มและเย็น อย่างห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ มีพัดลม หรือมีอากาศถ่ายเทสะดวก
จากนั้นจัดท่าผู้ประสบเหตุด้วยการยกขาให้สูงขึ้น หรือ นำขาพาดไว้กับเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดและความดันโลหิต ถอดเสื้อผ้าออกเพื่อระบายความร้อน ใช้เครื่องปรับอากาศ พัดลม พัด หรือทุกอย่างเป่าตัวผู้ป่วยระหว่างเช็ดตัว เพราะจะช่วยให้อุณหภูมิลดลงได้เร็วขึ้น
หากผู้ประสบเหตุยังมีสติ ควรให้จิบน้ำเย็นอยู่ตลอด เพื่อลดอุณหภูมิร่างกาย หรือใช้น้ำเย็นราด พรมตามตัว ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดทั่วตัว ใช้แผ่นเจลประคบเย็นหรือผ้าชุบน้ำประคบไว้ตามร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณศีรษะ คอ รักแร้ และขาหนีบ หากมีถังหรืออ่างน้ำสามารถให้ผู้ป่วยแช่ตัวในน้ำเพื่อลดอุณหภูมิได้ แต่ควรเฝ้าผู้ป่วยไว้ตลอด เพราะหากผู้ประสบเหตุหมดสติอาจจมน้ำได้
หากผู้ประสบเหตุหมดสติ ไม่ตอบสนอง ร่วมกับคลำชีพจรไม่ได้ ไม่หายใจ หายใจผิดปกติหรือหายใจเฮือก ควรเริ่มซีพีอาร์ (CPR) หรือการปั๊มหัวใจ ปฐมพยาบาลด้วยวิธีเหล่านี้จนกว่าจะถึงโรงพยาบาล
สรุป
ดังนั้น เราควรลดความเสี่ยงของการเกิดฮีทสโตรก โดยหลีกเลี่ยงแสงแดด โดยเฉพาะช่วงเวลาที่แดดจัดและอากาศร้อน หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง จิบหรือดื่มน้ำเล็กน้อยตลอดทั้งวัน สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี สีอ่อน สวมหมวกเมื่ออยู่กลางแจ้ง ทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว หากต้องทำงานท่ามกลางแสงแดดเป็นเวลานาน ควรพักในที่ร่มและจิบน้ำเป็นระยะเพื่อลดอุณหภูมิร่างกายและลดความเสี่ยงของฮีทสโตรก
#ฮีทสโตรก #การดูแลตัวเอง #โรคน่ารู้