<strong>ลดความหิว</strong> สิ่งสำคัญที่คนอยากลดน้ำหนักต้องทำให้สำเร็จ

ความหิวเป็นตัวการร้ายที่ทำให้คุณนั้นลดน้ำหนักเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จสักที เพราะเมื่อคุณรู้สึกหิวโหยขึ้นมาคุณจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และรับประทานทุกอย่างตามความต้องการ ดังนั้นหากคุณสามารถจัดการกับความหิวของตนเองได้ก็เท่ากับว่าคุณสามารถลดน้ำหนักสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาดูเทคนิคการลดความหิวให้ทุกคนได้ลองทำตามกัน เปิดเทคนิคช่วยลดความหิวให้คุณลดน้ำหนักได้สำเร็จง่ายขึ้นกว่าเดิม โปรตีน สิ่งสำคัญในมื้อเช้าที่จะช่วยลดความหิวได้ตลอดทั้งวัน หากคุณอยากลดความหิวได้ตลอดทั้งวันสิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุดก็คือมื้อเช้านั่นเอง ยิ่งถามมื้อเช้าของคุณเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนยิ่งช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มได้นานมากขึ้น ทำให้กินอาหารมื้อต่อไปได้น้อยลงกว่าเดิม ที่สำคัญยังสามารถลดไขมันสะสมภายในร่างกายได้อีกต่างหาก มีผลงานวิจัยพบว่าการรับประทานไข่เป็นมื้อเช้าติดต่อกันนาน 8 สัปดาห์จะมีน้ำหนักลดลงกว่า 65% แถมยังมีไขมันลดลงกว่า 16 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย ยิ่งใครที่ออกกำลังกายยิ่งควรรับประทานเพราะมันจะสามารถป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อได้ดีในช่วงที่ลดน้ำหนักอีกต่างหาก #การดูแลตัวเอง #สุขภาพ #ลดความหิว
<strong>น้ำเปล่าแช่มะนาว</strong> เครื่องดื่มที่หลายคนสงสัยว่าทำไปทำไม

ปัจจุบันดูเหมือนว่าน้ำเปล่าธรรมดาทั่วไปจะไม่เก๋มากพอสำหรับการเสิร์ฟในร้านอาหารหรือตามคาเฟ่ ด้วยเหตุนี้เราจึงได้เห็นว่ามีหลายร้านมักเสิร์ฟน้ำเปล่าแช่มะนาว บางคนชื่นชอบเป็นอย่างมากถึงขั้นทำดื่มเองในบ้านก็มี แต่คนที่สงสัยว่าจะเอามะนาวไปแช่ในน้ำเปล่าทำไมก็มีเช่นเดียวกัน เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักให้มากขึ้นกันว่าเครื่องดื่มดังกล่าวนั้นดีอย่างไรและอันตรายอย่างไรบ้าง ทำความรู้จักกับน้ำเปล่าแช่มะนาว เพราะเหตุใดจึงได้รับความนิยม น้ำเปล่าแช่มะนาวหรือเลมอนนั้นสามารถเพิ่มรสชาติเปรี้ยวอมหวานให้กับน้ำเปล่าและช่วยเพิ่มกลิ่นหอมได้เป็นอย่างดี เมื่อดื่มเข้าไปแล้วจึงทำให้เรารู้สึกสดชื่นได้มากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังช่วยให้เรารู้สึกอยากจะดื่มน้ำเปล่าระหว่างวันมากขึ้นอีกด้วย การผสมมะนาวเข้าไปแบบฝานไม่ได้บีบจนเปรี้ยวจัดจะทำให้เราดื่มง่ายแถมยังได้รับวิตามินซีแบบสดใหม่อีกด้วย สามารถป้องกันหวัดได้เป็นอย่างดี ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง สามารถลดการเกิดปัญหาเลือดออกตามไรฟันได้อีกต่างหาก แต่อย่างไรก็ตามมีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับเครื่องดื่มชนิดนี้อยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน บางคนเชื่อว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระและกากใยอาหารที่สามารถลดอัตราการย่อยอาหารในร่างกายของเราได้ ช่วยลดความอ้วนเนื่องจากสามารถลดการดูดซึมของน้ำตาลในเส้นเลือด เมื่อดื่มเข้าไปแล้วจึงทำให้รูปร่างดี ซึ่งในมะนาวนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระรวมไปถึงจากใยอาหารจริงทั้งในเกล็ด เนื้อ และเปลือก แต่คุณจะได้รับมันก็ต้องรับประทานมะนาวสดในจำนวนที่ไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นแค่การฝานมะนาวลงไปแช่อยู่ในน้ำเปล่าจึงไม่เพียงพอแต่อย่างใดและไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างที่กล่าวอ้าง บ้างก็ว่าการมีมะนาวอยู่ในน้ำจะช่วยเพิ่มความเป็นกรดที่สามารถกระตุ้นระบบขับถ่ายได้ดี สามารถดีท็อกซ์ได้ ซึ่งความจริงทำได้แต่ก็แค่เล็กน้อยเท่านั้น น้ำเปล่าแช่มะนาวอาจอันตรายมากกว่าที่คุณคิด น้ำเปล่าแช่มะนาวอาจมีประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นช่วยให้คุณดื่มน้ำได้มากขึ้นกว่าเดิมหรือได้รับวิตามินซี แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เหมือนกับอาหารทั่วไปที่มีทั้งประโยชน์และโทษเช่นเดียวกัน การดื่มน้ำที่มีความเป็นกรดติดต่อกันเป็นประจำจะเข้าไปทำลายชั้นเคลือบฟันของฟันเราได้ ทำให้เกิดปัญหาฟันสึกกร่อนเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการฟันผุได้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ที่สำคัญคือเราต้องมั่นใจว่ามะนาวนั้นจะต้องผ่านการล้างมาอย่างสะอาดหมดจดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะเราฝานลงไปแช่ทั้งเปลือก หากไม่ได้ล้างก็อาจจะทำให้เราได้รับสิ่งตกค้างจากสารเคมีหรือยาฆ่าแมลงได้เช่นเดียวกัน #การดูแลตัวเอง #น้ำเปล่าแช่มะนาว #การดูแลสุขภาพ
นอน<strong>ให้น้ำเกลือ</strong>ทำให้บวมจริงหรือไม่ ไปหาคำตอบกัน

เวลาเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลหากคุณได้ ADMIT หรือมีอาการหนักสิ่งแรกที่หมอจะสั่งก็คือให้พยาบาลเจาะสายน้ำเกลือนั่นเอง มันเป็นการนำเอาเข็มเจาะเข้าไปในเส้นเลือดของเราเพื่อให้น้ำเกลือผ่านทางสายเลือด ด้วยความที่มันเป็นน้ำแถมยังมีถุงขนาดใหญ่ เวลาเราป่วยเราก็นอนเฉยๆ หลายคนจะมองว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้น้ำเกลือเราก็มักจะมีอาการบวมหรืออ้วนอยู่เสมอ เราจึงจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันว่าความจริงแล้วน้ำเกลือเป็นตัวการที่ทำให้เราตัวบวมขึ้นจริงหรือไม่ เพราะเหตุใดเราจึงต้องให้น้ำเกลือและมันทำให้เราบวมขึ้นจริงหรือ สาเหตุที่ทำให้แพทย์ตัดสินใจให้น้ำเกลือกับผู้ป่วยนั้นเกิดจากการที่น้ำเกลือดังกล่าวเป็นน้ำเกลือในปริมาณที่เหมาะสม ดังนั้นมันจึงสามารถไหลเข้าผ่านไปในกระแสเลือดได้เป็นอย่างดี โดยที่ไม่เข้าไปทำลายระบบต่างๆ ภายในร่างกายของมนุษย์หรือทำให้ระบบการทำงานในร่างกายของเราผิดปกติ และยังเข้าไปช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอภายในร่างกายของเราได้อีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเจ็บป่วยมาด้วยอาการใดก็ตามแพทย์จึงมักจะวินิจฉัยให้พยาบาลสอดสายน้ำเกลือกับคุณอยู่เสมอเพราะมันจะช่วยให้คุณมีอาการที่ดีขึ้นไม่มากก็น้อยนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมาพร้อมกับอาการท้องเสีย คลื่นไส้อาเจียน มีไข้สูง หรือเสียเลือดจากอุบัติเหตุ มันจะกลายมาเป็นสารอาหารทดแทนในช่วงที่เราทานอาหารได้น้อยลงอีกด้วย ส่วนคำถามที่ว่าน้ำเกลือเป็นตัวการที่ทำให้เราตัวบวมหรืออ้วนขึ้นจริงหรือไม่นั้น สำหรับผู้ที่ได้น้ำเกลือไปก็อาจจะรู้สึกว่าตัวเองน้ำหนักขึ้นได้บ้าง แต่มันก็เป็นอาการเพียงแค่ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น หลังจากที่ร่างกายของเราสามารถฟื้นตัวกลับมาทำงานได้ตามปกติอีกครั้ง อวัยวะที่ทำหน้าที่ขับน้ำออกจากร่างกายของเราก็จะทำงานขับน้ำเหล่านี้ออกมาตามปกติ ร่างกายของเราก็เหลือซูบลงไม่บวมเหมือนตอนที่นอนป่วยอยู่แต่อย่างใดแถมยังใช้เวลาไม่นานอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลไปเพราะมันจะเป็นอาการที่เกิดขึ้นเพียงแค่ครู่เดียว หรือในกรณีที่อวัยวะขับน้ำภายในร่างกายของผู้ป่วยทำงานได้ไม่ดี ก็อาจจะทำให้มีอาการบวมน้ำได้ แต่ก็จะอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และพยาบาลตลอดการรักษาอยู่แล้ว แพทย์ก็จะพิจารณาปรับน้ำเกลือในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อป้องกันอาการบวมน้ำไม่ให้วิกฤต การให้น้ำเกลือคืออะไร เพราะเหตุใดจึงมักถูกหยิบนำเอามาใช้อยู่เป็นประจำ อย่างที่เราบอกไปว่าการให้น้ำเกลือนั้นมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยเป็นอย่างมาก นั่นก็เป็นเพราะว่ามันคือน้ำเกลือที่มีปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการฉีดเข้าไปในร่างกายของมนุษย์โดยเฉพาะมนุษย์ที่กำลังป่วยอยู่ ภายในนั้นจะเป็นของเหลวที่มีทั้งน้ำเกลือ แร่ธาตุ กลูโคส และวิตามิน ในบางทีก็อาจจะมีการผสมยาเข้าไปด้วยเพื่อเป็นการรักษาผู้ป่วยเช่นเดียวกัน จะมีการปรับความเข้มข้นให้ใกล้เคียงกับเลือดของมนุษย์เราเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด #สุขภาพดี #การดูแลตัวเอง #การให้น้ำเกลือ
<strong>นมไขมันต่ำ</strong> เป็นเครื่องดื่มที่ไม่ทำให้คุณอ้วนจริงหรือไม่

ในปัจจุบันเราพยายามหลีกเลี่ยงน้ำตาลและไขมันกันอย่างหนักเพื่อเป็นการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลาย เวลาเราเลือกซื้อนมเราจึงมักจะเลือกนมไขมันต่ำอยู่เสมอเพราะเข้าใจว่ามันดีต่อสุขภาพ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันทำให้เราไม่อ้วนขึ้นจริงหรือไม่นั้นก็เป็นคำถามที่หลายคนไม่ทราบคำตอบแต่อย่างใด เราจึงจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันว่าความจริงแล้วนมเหล่านี้คืออะไรกันแน่และมันดีต่อร่างกายของเราจริงหรือไม่ เปิดผลวิจัย นมไขมันต่ำดีต่อร่างกายหรือไม่ เมื่อไม่นานมานี้ได้มีผลงานวิจัยของนายแพทย์ผู้หนึ่งที่ได้ตีพิมพ์ลงบนวารสารอย่าง CIRCULATION ออกมาเปิดเผยว่าเขาพร้อมทั้งทีมงานได้มีการวิเคราะห์ผลตรวจเลือดในผู้ใหญ่จำนวนมากกว่า 3.3 พันคนที่ได้มาเข้าร่วมโครงการ ใช้เวลาในการวิจัยยาวนานกว่า 15 ปีเลยทีเดียว และคำตอบที่ได้นั้นก็สามารถตอบคำถามได้เป็นอย่างดีว่านมไขมันต่ำเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกายของเราจริงหรือไม่ โดยผลการวิจัยพบว่าผู้ที่ดื่มนมหรือรับประทานอาหารที่ผลิตมาจากนมชนิดไขมันเต็มที่จำนวนกว่า 46% มีความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคเบาหวานน้อยกว่าผู้ที่ดื่มนมแบบไขมันต่ำเสียอย่างนั้น ด้วยเหตุนี้มันจึงสามารถตอบได้ในระดับหนึ่งแล้วว่านมที่มีไขมันต่ำนั้นไม่ได้มอบผลดีให้กับร่างกายของเราไปมากกว่าการดื่มนมตามปกติแต่อย่างใด นอกจากนี้นักวิจัยยังออกมากล่าวอีกด้วยว่าถึงแม้ว่านมปกตินั้นจะมีปริมาณแคลอรี่ที่มากกว่านมแบบไขมันต่ำ และมีผู้เ****วชาญจำนวนไม่น้อยที่แนะนำให้หลีกเลี่ยงการบริโภคเพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน แต่จากผลการวิจัยดังกล่าวนั้นกลับพบว่าการที่เราลดปริมาณไขมันลงจะทำให้เราหันไปบริโภคทั้งคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลแทน ซึ่งทั้งคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลนั้นเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อฮอร์โมนที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเส้นเลือดหรืออินซูลินนั่นเอง ดังนั้นมาเจอทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้นมที่มีไขมันตามปกติก็ยังไม่ได้ทำให้น้ำตักตัวของเราเพิ่มขึ้นอีกด้วย และยังมีงานวิจัยของนักวิจัยอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้ตีพิมพ์ลงบนวารสาร THE AMERICAN JOURNAL OF NUTRITION ว่าผู้หญิงจำนวนมากกว่า 1.8 หมื่นคนที่เข้าร่วมโครงการ ผู้ที่ดื่มนมไขมันปกตินั้นจะสามารถลดความเสี่ยงในการมีน้ำหนักเกินหรือการเกิดโรคอ้วนได้กว่า 8% ดื่มนมไขมันต่ำอย่างไรให้ดีกับร่างกายอย่างแท้จริง ความจริงแล้วนมไขมันต่ำนั้นเป็นนมที่ไม่มีไขมันหรือมีจำนวนไขมันต่ำกว่านมปกติ ถามว่ามันดีต่อร่างกายหรือไม่ก็ย่อมดีกว่าในกรณีที่คุณเป็นคนที่ชอบรับประทานของมันของทอดและได้รับปริมาณไขมันเกินในแต่ละวันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่จะช่วยให้คุณสามารถดื่มนมแบบไขมันต่ำได้ดีต่อร่างกายอย่างแท้จริงก็คือการไม่ไปรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลซึ่งเป็นตัวการร้ายที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานต่างหาก #สุขภาพดี #การดูแลตัวเอง #นมไขมันต่ำ
<strong>คุมหิว</strong> เทคนิคช่วยลดน้ำหนักให้ความอยากอาหารลดลง

ในปัจจุบันผู้คนไม่ได้ลดน้ำหนักเพียงเพื่อแค่อยากจะมีรูปร่างที่ดูดีตามความต้องการของตนเองแต่อย่างใด แต่เราหันมาลดน้ำหนักเพราะต้องการจะดูแลสุขภาพร่างกายให้มีความแข็งแรง ซึ่งการจะดูแลเรื่องน้ำหนักและรูปร่างนั้นก็ต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับอาหารการกินเช่นเดียวกัน สำหรับใครที่เผชิญปัญหาหิวบ่อยและไม่สามารถยับยั้งความหิวของตนเองได้ วันนี้เราจะพาทุกคนมาดูเทคนิคการคุมหิวที่จะช่วยคุณลดความอยากอาหารลงได้มากขึ้นกว่าเดิมกัน เปิดเทคนิคการคุมหิวอย่างไรให้การลดน้ำหนักง่ายกว่าเดิม ก่อนคุมหิว จะรู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้หิวจริงหรือไม่ เทคนิคการคุมหิวนั้นเป็นเทคนิคการลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพที่ควรใช้เวลาที่เราไม่ได้หิวจริง แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้เรากำลังหิวจริงหรือแค่อยากกินอะไรสักอย่างเท่านั้น วิธีการก็คือให้เราสังเกตร่างกายของตนเองว่ามีอาการท้องร้องหรือไม่ รู้สึกว่าระดับพลังงานลดลงหรือเปล่า อย่างเช่นรู้สึกอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียวได้ง่ายหรือมีอาการสมองล้าจนคิดอะไรได้ช้าลงกว่าเดิม หากคุณมีอาการเหล่านี้แปลว่าร่างกายของคุณหิวจริงและต้องกินอาหารเพื่อเติมพลังงานเข้าไป แต่หากคุณไม่ได้มีความรู้สึกเหล่านี้เลยเพียงแค่เบื่อหน่าย เศร้า โกรธ หรือติดกินจุกจิกเป็นนิสัย หมายความว่าคนไข้อยากกินอะไรสักอย่าง ไม่ได้รู้สึกหิวจริง ๆ แต่อย่างใด #สุขภาพดี #การคุมหิว #ลดน้ำหนัก
<strong>ติดยาดม</strong> พฤติกรรมที่อาจทำลายสุขภาพของคนโดยไม่ทันรู้ตัว

อยากรู้ว่าใครเป็นคนไทยในต่างประเทศต้องดูว่าเขาพกยาดมหรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่ใช้ได้จริงอยู่เสมอ นั่นก็เป็นเพราะว่ายาดมคือไอเทมติดตัวชาวไทยอย่างเราที่ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนก็มักจะพกพาไปด้วยอยู่ตลอดเวลา แต่ทราบหรือไม่ว่าการติดยาดมนั้นอาจเป็นพฤติกรรมที่ส่งผลทำลายสุขภาพของเรามากกว่าที่เราคิดก็ได้เช่นเดียวกัน วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาดูกันว่าในยาดมนั้นมีอะไรเป็นส่วนประกอบและมันจะอันตรายกับเราอย่างไร ทำความรู้จักกับส่วนประกอบที่ทำให้เราติดยาดม เปิดสาเหตุทำไมเราจึงติดยาดมและติดแล้วอันตรายอย่างไร สาเหตุที่ทำให้เราติดยาดมนั้นเกิดจากสารประกอบอย่างการะบูนและเมนทอลที่ไปส่งผลต่อระบบประสาททำให้เรารู้สึกเสพติดต้องหยิบขึ้นมาดมจนเป็นนิสัย ซึ่งความจริงแล้วหากเราติดแต่ไม่ได้ต้องดมอยู่ตลอดเวลาหรือยัดเข้าไปในจมูกก็ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพถึงขนาดนั้น แต่หากคุณใช้อยู่เป็นประจำโดยที่ไม่มีเวลาให้จมูกได้พักเลยก็อาจจะทำให้เยื่อเมือกบุทางเดินจมูกเกิดอาการระคายเคืองได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการถูกโดนใกล้ๆหรือการยัดเข้าไปในรูจมูกติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจส่งผลในระยะยาวทำให้ทางเดินหายใจระคายเคืองและยังอาจทำให้ปอดอักเสบได้อีกด้วย #การดูแลตัวเอง #สุขภาพ #ติดยาดม
<strong>แก้ไขความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับเรื่องของอาหารและ ประจำเดือน</strong>

เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงได้รับความเชื่อส่งต่อกันมาเป็นรุ่นๆ ซึ่งบางความเชื่อก็ถูกต้องแต่บางความเชื่อก็ไม่ได้เป็นความจริงเสมอไป อย่างเรื่องของ ความเชื่อเกี่ยวกับอาหารและ ประจำเดือน ที่ส่งต่อกันมาแต่นมนาน ว่าเหตุอย่างนั้นทำให้เป็นอย่างนี้ วันนี้เราก็เลยจะมาแก้ไขความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้กัน ซึ่งจะมีความเชื่อไหนที่สาวๆ ควรทำความเข้าใจใหม่บ้างนั้น เรามาเช็คกันเลย 1. ช่วงมี ประจำเดือน ไม่ควรดื่มน้ำมะพร้าว คนไทยมีความเชื่อกันมานมนานว่า ห้ามดื่มน้ำมะพร้าวในช่วงที่กำลังมีประจำเดือน เพราะจะส่งผลให้เลือดประจำเดือนมีกลิ่นคาวขึ้นและทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติ หรืออาจส่งผลให้ปวดประจำเดือนมากขึ้น แต่ความเป็นจริงแล้วการดื่มน้ำมะพร้าวนั้นไม่มีข้อห้ามแต่อย่างใด เพียงแต่ไม่แนะนำให้ดื่มในปริมาณที่มากเกินไป เพราะในน้ำมะพร้าวจะมีสารไฟโตเอสโตรเจน ( Phytoestrogen ) ซึ่งเป็นสารประกอบจากธรรมชาติที่มีสูตรโครงสร้างคล้ายกับฮอร์โมนเพศหญิงนั่นเอง 2. น้ำมะพร้าวจะทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติและทำให้ปวด ประจำเดือน สำหรับความเชื่อที่ว่า การดื่มน้ำมะพร้าวจะทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติและจะทำให้ปวดประจำเดือนนั้น ความจริงแล้ว อาการปวดประจำเดือนเกิดจากกลไกการบีบตัวของมดลูก ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับสารโพรสตาแกลนดิน ( prostaglandins ) และในน้ำมะพร้าวจะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงมาก ถึงแม้จะไม่ใช่สาเหตุหลักของอาการปวด ประจำเดือน ซึ่งอาจส่งผลต่อการบีบตัวของมดลูกและอาจรบกวนปริมาณของประจำเดือนได้ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่าไม่ดื่มในปริมาณที่มากจนเกินไป น้ำมะพร้าวก็ให้ประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย อาทิเช่น อุดมไปด้วยเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกาย และสารอาหารอื่นๆ อีกมากมาย 3. ช่วงมี ประจำเดือน ไม่ควรดื่มน้ำเย็นหรือทานน้ำแข็ง สุดท้ายกับความเชื่อที่ว่า ไม่ควรดื่มน้ำเย็นหรือทานน้ำแข็งในช่วงที่มีประจำเดือน […]
<strong>แนะนำอาหารว่างจากคีโตทานก่อนออกกำลังกายได้ไม่อ้วน</strong>

ก่อนออกกลังกายควรเลือกกินอาหารที่มีสัดส่วนของคาร์โบไฮเดรตสูง โปรตีนปานกลาง แต่ไขมันต่ำ เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตจะสามารถย่อยและดูดซึมไปเป็นพลังงานได้ไวกว่า และในส่วนของโปรตีนและไขมันจำเป็นต้องใช้พลังงานบางส่วนในการย่อยและดูดซึม แต่เมื่อคุณกำลังจะเริ่มทานอาหารคีโตอาจจะต้องตัดคาร์โบไฮเดรตและหาอย่างอื่นมาทดแทนการทานแบบเดิมๆ การทานอาหารว่างแบบคีโต (Ketogenic Diet) เป็นการกินไขมันเพื่อลดน้ำหนัก อาหารที่มีไขมันสูงปานกลางจะช่วยให้คุณออกกำลังกายได้ยาวนานมากขึ้นโดยไม่ต้องรับประทานคาร์โบไฮเดรต จะมีอาหารอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ 1.โยเกิร์ต โยเกิร์ตเป็นอาหารคีโตอีกอย่างที่เหมาะมากๆในการทานก่อนออกก่อนกำลังกาย ในขณะที่หลายคนคิดว่าทานนมดีที่สุดแต่ไม่ใช่เลย เพราะจริงๆแล้วคุณควรทานโยเกิร์ตกะทิ หรือโยเกิร์ตที่ทำจากถั่วเหลืองจะดีสุด แต่หากคุณกังวลเกี่ยวกับสารอาหาร ก็สามารถทานคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลงและไปเน้นที่ผลเบอร์รี่สด หรือไขมันที่ดีต่อสุขภาพแทน 2.สลัดไข่อะโวคาโด เป็นเมนูที่ผสมผสานระหว่างโปรตีนและไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แนะนำให้ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันซึ่งก็คือ ไข่ อะโวคาโด และมายองเนส เพราะทั้งหมดนี้ ล้วนมีคุณค่าทางอาหารที่ดีเพียบเลยค่ะ 3.สลัดอะโวคาโด เปปเปอโรนี เป็นอาหารคีโตไดเอทที่ดีที่สุด ถึงจะมีชีสก็เถอะ ในสลัดนี้ใช้ทั้งอะโวคาโดหั่นเต๋า, ครีมมอสซาเรลล่า และเปปเปอโรนีที่แหล่งมีไขมันกับโปรตีนสูง ดีต่อร่างกายก่อนออกกำลังกายมากๆ ปรุงรสง่ายๆด้วยเกลือ พริกไทย และบีบมะนาว แค่นี้ก็อร่อยแล้วค่ะ 4.ทูน่าอะโวคาโดครีม ขนมทานเล่นที่มีประโยชน์ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ผสมเนื้อปลาทูน่ากระป๋อง (หรือปลาแซลมอน) กับหัวหอม มายองเนส แตงกวา และพริกไทยดำ จากนั้นคลุกส่วนผสมให้เข้ากัน โดยเคล็ดลับคือใส่น้ำมันอะโวคาโดเข้าไปด้วย จากนั้นนำส่วนผสมที่เข้ากันแล้วไปใส่ในผลอะโวคาโด อร่อย ประหยัด ไม่อ้วนด้วย 5.แซลมอนรมควันพันแตงกวา […]
<strong>แนะนำแผ่นแปะแก้ปวด คุณภาพดี บรรเทาอาการปวดเมื่อย</strong>

การปวดเมื่อยตามร่างกายสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น การใช้งานกล้ามเนื้ออย่างหนัก, อุบัติเหตต่าง ๆ รวมทั้งอายุที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งมักพบในกลุ่มวัยทำงาน สำหรับการบรรเทาอาการปวดตามร่างกายก็มีหลายวิธีด้วยกัน และหนึ่งในวิธีที่หลายคนนิยมนั่นก็คือการใช้แผ่นแปะแก้ปวด ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามในตอนนี้ก็มีการผลิตแผ่นแปะแก้ปวด หลากหลายแบรนด์และหลากหลายสูตรให้เลือกซื้อกัน ดังนั้นในบทความนี้เราจึงได้คัดสรรแผ่นแปะแก้ปวดคุณภาพดี และได้รับความนิยมมาแนะนำให้กับทุกคนกันค่ะ 1.Tiger Balm แผ่นแปะตราเสือ บรรเทาอาการปวด สูตรร้อน เย็น แผ่นแปะบรรเทาอาการปวดตราเสือสูตรนี้ เป็นสูตรเย็นที่สามารถระบายอากาศได้ดี สบายผิว ไม่ทิ้งคราบ มีส่วนผสมของการบูร น้ำมันยูคาลิปตัส และเมนทอล เหมาะสำหรับแปะบริเวณคอ บ่า ไหล่ หลัง หรือบริเวณอื่น ๆ ที่มีอาการเคล็ด ตึง หรือฟกช้ำ สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดบริเวณกล้ามเนื้อได้ยาวนาน เหมาะสำหรับคนที่ทำกิจกรรมหนัก ๆ อย่างเช่นออกกำลังกายหรือเดินเป็นเวลานาน จนเกิดอาการเคล็ดและกล้ามเนื้อฟกช้ำ ใครที่เป็นสายออกกำลังกายแผ่นแปะแก้ปวดสูตรนี้ถือว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณที่สุดค่ะ 2.SOS Plus แผ่นแปะแก้ปวด Far Infrared Patch แผ่นแปะร้อนที่นำเทคโนโลยีรังสีอินฟาเรดทางการแพทย์มาพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบแผ่นแปะบรรเทาปวด ออกฤทธิ์ยาวนาน ยืดหยุ่นได้ดี โดยรังสีอินฟราเรดเป็นรังสีความร้อนชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ในร่างกายมนุษย์ สามารถออกฤทธิ์ได้ลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ ทำให้รู้สึกร้อนอย่างยาวนาน […]
<strong>แนะนำอาหารช่วยลดความเครียด ปรับอารมณ์ให้สมดุล ห่างไกลโรคซึมเศร้า</strong>

เชื่อว่าแทบไม่มีใครเลยที่ไม่เคยต้องเผชิญกับความเครียด ไม่ว่าจะจากเรื่องงาน เรื่องเรียน หรือการใช้ชีวิต เพราะนอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพใจแล้ว ยังส่งผลทำให้สุขภาพกายแย่ตามไปด้วยเช่นกัน เราจึงมักหาวิธีต่างๆเพื่อจัดการความเครียด และอีกหนึ่งในวิธีที่สามารถจัดการความเครียดได้อย่างง่าย และส่งผลดีต่อสุขภาพ คือการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม ส่วนจะมีเมนูไหนที่เป็นตัวช่วยชั้นยอดในการเติมความสุขให้กับคุณได้บ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ 1.กิมจิ ใครที่ชื่นชอบอาหารเกาหลีต้องเคยทานแน่นอน กับเมนูกิมจิที่ทำจากผักกาดขาว (ผักกาดจีน) และหัวไชเท้า จะมีโพรไบโอติกส์ วิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเครียดและความกังวล และโพรไบโอติกส์ยังมีผลดีต่อสุขภาพจิตอีกด้วย 2.ปลาแซลมอน คนรักแซลมอนยิ้มแน่นอน เพราะในปลาแซลมอนก็มี ‘โอเมก้า 3’ ที่มีส่วนช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเซโรโทนินได้มากขึ้น ช่วยคลายเครียด ควบคุมอารณ์ และยังช่วยทำให้ความจำดีมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ‘โอเมก้า 3’ ยังช่วยการทำงานของระบบประสาทได้ด้วย 3.สาหร่าย สาหร่าย นอกจากจะเป็นของทานเล่นของสาว ๆ ในยามบ่าย เคี้ยวเพลิน ถ้าไม่เกิดห้ามใจยังไงก็ไม่อ้วนแล้ว ในสาหร่ายยังมี ‘แมกนีเซียม’ ที่ถือเป็นสารที่ช่วยในการสั่งงานของระบบประสาทอยู่มาก ช่วยคุมประสาทไม่ให้เกิดอาการตื่นตัวมากเกินไป และเมื่อสารนี้ทำงานร่วมกับแคลเซียมก็จะสามารถช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย 4.หอย หอยไม่ว่าจะเป็นหอยแมลงภู่ หอยนางรมก็อุดมด้วยกรดอะมิโน มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นอารมณ์ให้ดีขึ้น และยังมีวิตามินบี 12, ซิงค์, สังกะสี […]