<strong>ไหลตาย</strong> วิธีการจากโลกในนี้ไปอย่างสงบสุขที่สุด

มนุษย์ทุกคนเมื่อถือกำเนิดขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเราจะดำรงอยู่ระดับสูญไป ไม่วันใดวันหนึ่งเราก็ต้องตายจากโลกใบนี้ไปอย่างแน่นอน ดังนั้นสิ่งที่คนส่วนใหญ่กลัวไม่ใช่การจากโลกใบนี้ไปแต่เป็นสาเหตุการตายที่ทำให้ต้องเจ็บปวดหรือทุกข์ทรมานต่างหาก ดังนั้นหลายคนจึงหวังว่าเมื่อหมดอายุขัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วตนเองนั้นจะนอนหลับและเสียชีวิตไปเลยหรือที่หลายคนเรียกกันว่าการไหลตายนั่นเอง เพราะมันเป็นวิธีการจากโลกใบนี้ไปอย่างสงบสุขที่สุด ไม่รู้สึกเจ็บปวด เหมือนนอนหลับไปธรรมดา เราจึงจะพาทุกคนมาดูกันว่าความจริงแล้วอาการดังกล่าวคืออะไรและจะมีวิธีป้องกันหรือไม่ ทำความรู้จักกับการไหลตาย การตายที่มาพร้อมกับการนอนหลับ บนโลกใบนี้มีสาเหตุการตายอยู่เต็มไปหมด แต่เชื่อว่าหลายคนคงอยากจะไหลตายเนื่องจากมันเป็นวิธีการจากโลกใบนี้ไปอย่างสงบสุขและไม่เป็นทุกข์มากที่สุด เหมือนกับว่านอนหลับไปเลยแล้วไม่ฟื้นตื่นกลับคืนมาอีกครั้ง อาการดังกล่าวนั้นมีสาเหตุจากการที่หัวใจเต้นผิดจังหวะกะทันหัน ดังนั้นจึงทำให้เสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะนั้นมาจากลิ่มเลือดเข้าไปอุดตันในบริเวณหลอดเลือดกระทันหัน ทำให้มีภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน หรืออาจจะเกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อหัวใจซึ่งสามารถพบได้ตั้งแต่กำเนิดหรือเป็นโรคสืบทอดจากพันธุกรรมของคนในครอบครัว คนส่วนใหญ่มักจะพบผู้ที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าวหลังจากที่เสียชีวิตไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะอาการที่เกิดขึ้นจะเหมือนกับนอนหลับไปเฉยๆ แล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีก สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสจะเกิดภาวะดังกล่าวได้นั้นความจริงแล้วก็เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับคนที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไปจนถึง 50 ปี สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ที่มีประวัติหัวใจเต้นระริกโดยไม่มีการบีบตัว ทำให้ภายในหลอดเลือดไม่มีการไหลเวียน เมื่อออกซิเจนไม่สามารถถูกลำเลียงผ่านเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย หรืออาจจะมีภาวะกระแสไฟฟ้าหัวใจผิดปกติก็จะทำให้ถึงแก่ชีวิตขึ้นมา ผู้ที่สามารถรอดชีวิตจากภาวะเหล่านี้ได้ด้วยการปั๊มหัวใจก็ยังคงมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นซ้ำอีกเช่นเดียวกัน สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอาการดังกล่าวนั้นมีมากมายไม่ว่าจะเป็นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การใช้สารเสพติด การใช้ยานอนหลับ การมีไข้สูงแล้วไม่รีบรักษา รวมไปถึงการรับประทานอาหารที่มีแป้งมากเกินไปและอาหารรสเค็ม ป้องกันอย่างไรหากไม่อยากจากโลกใบนี้ไปด้วยการไหลตาย แน่นอนว่าการไหลตายนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นวิธีการจากโลกใบนี้ไปอย่างสะดวกและรวดเร็วมากที่สุด ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดหรือความทุกข์ทรมาน แต่หากไม่ถึงเวลาก็คงไม่มีใครอยากจะจากโลกใบนี้ไปไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไรทั้งนั้น และหากคุณไม่อยากให้เกิดอาการดังกล่าวขึ้นก็ต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในระดับที่ปกติ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากมีอาการเจ็บป่วยเป็นไข้ควรรักษาโดยเร็ว หากอยู่ในกลุ่มเสี่ยงให้ตรวจเช็คสุขภาพรวมไปถึงตรวจสอบคลื่นไฟฟ้าหัวใจอยู่เป็นประจำ หรือหากเป็นผู้มีความเสี่ยงสูงแพทย์อาจจะวินิจฉัยให้ฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจเอาไว้ในตัวเลยก็ได้เช่นเดียวกัน #สุขภาพ #ความรู้ #ไหลตาย
<strong>REM SLEEP</strong> ตัวการที่ทำให้คุณมีปัญหานอนหลับไม่สนิท

การนอนหลับพักผ่อนนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากและยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไหร่เราก็ยิ่งเห็นถึงความสำคัญในการพักผ่อนมากขึ้นเท่านั้น เพราะร่างกายของเราที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้เราไม่สามารถใช้งานมันได้อย่างหนักหน่วงโดยที่ไม่พักได้เหมือนแต่ก่อนอีกต่อไปแล้ว แต่เพราะยิ่งโตขึ้นทำให้เรื่องปวดหัวก็ยิ่งมีมากมายกลายมาเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้เรานอนไม่หลับหนักกว่าเดิมไปอีก แต่ความจริงแล้วมีอีกหนึ่งตัวกันเช่นเดียวกันที่ทำให้เรานอนหลับไม่สนิทหรือสำหรับบางคนแล้วก็อาจจะทำให้ถึงขั้นนอนไม่หลับกันเลยทีเดียวนั่นก็คือ REM SLEEP ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้นั่นเอง มันคืออะไรและจะมีวิธีการใดบ้างที่ทำให้เราสามารถหลับได้อย่างสนิทตลอดทั้งคืนไปดูกัน ทำความรู้จักกับ REM SLEEP สาเหตุที่ทำให้คุณนอนหลับไม่สนิท หากคุณประสบปัญหานอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ เมื่อถึงเวลานอนหัวถึงหมอนแล้วเรากลับไม่สามารถข่มตานอนได้นั้นเกิดจากหลากหลายสาเหตุและปัญหา อันดับแรกเราต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่าการนอนในแต่ละคืนนั้นจะถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมด 2 ช่วงประกอบไปด้วย NON – REM SLEEP เป็นช่วงเวลาที่เราผล่อยหลับไปไปจนถึงก่อนช่วงที่เราจะหลับลึก โดยจะถูกแบ่งออกเป็นช่วงตั้งแต่ 5 นาทีไปจนถึง 1 ชั่วโมง 5 นาทีแรกถึง 15 นาทีร่างกายนั้นจะปรับตัวจากโหมดที่ตื่นนอนเป็นโหมดนอนหลับแทน ในช่วงนี้เราอาจจะเริ่มไม่รู้ตัวแล้วแต่ยังไม่ได้หลับลึก สามารถถูกปลุกตื่นได้อย่างง่ายดายด้วยเสียงหรือแสงที่รบกวน หลังจากนั้นในนาทีที่ 16 ถึงนาทีที่ 30 ร่างกายก็จะเข้าสู่การหลับตื้น ชีพจรของเราจะเต้นช้าลงและอวัยวะบางส่วนภายในร่างกายของเราก็จะมีการหยุดทำงาน 31 นาทีเป็นต้นไปจนถึง 1 ชั่วโมงร่างกายของเราก็จะเข้าสู่ช่วงการหลับลึก เราจะไม่รับรู้แล้วว่าเหตุการณ์รอบตัวมีอะไรเกิดขึ้นบ้างและค่อนข้างตื่นได้ยาก ส่วนช่วงที่ 2 นั้นก็คือ REM SLEEP เป็นช่วงเวลาที่กล้ามเนื้อในร่างกายของเราเริ่มมีการหยุดทำงานยกเว้นเพียงแค่กล้ามเนื้อเรียบ กล้ามเนื้อหัวใจ กล้ามเนื้อกระบังลม และกล้ามเนื้อตา แต่สมองของเราที่ไม่ใช่กล้ามเนื้อจะยังคงทำงานอยู่เหมือนกับตอนที่เรายังตื่น เป็นช่วงเวลาที่เรากำลังตกอยู่ในความฝันนั่นเอง […]
<strong>อาการเมาค้าง</strong> ปัญหาที่คุณต้องเจอหากเมื่อคืนดื่มหนัก

เมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่มีบางโอกาสเช่นเดียวกันที่เรานั้นต้องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อสังสรรค์กับกับคนรอบตัว การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นเป็นหนึ่งในวิธีการที่ช่วยให้ผู้คนสามารถสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามปัญหาที่ตามมาหลังจากดื่มหนักก็คือเช้ารุ่งขึ้นเราจะมีอาการที่เรียกว่าอาการเมาค้างนั่นเอง อาการดังกล่าวเป็นอย่างไรและเราสามารถแก้อย่างไรได้บ้าง เราจะพาทุกคนไปดูกัน ทำความรู้จักกับอาการเมาค้าง อาการที่มักเกิดขึ้นหลังดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาการเมาค้างนั้นเป็นอาการที่มักจะเกิดขึ้นหลังจากที่เราดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปเป็นจำนวนมาก เมื่อร่างกายได้รับแอลกอฮอล์เป็นจำนวนมากก็จะเกิดการชะลอตัวในการดูดซึมแร่ธาตุและวิตามิน ร่างกายจะมีการขับของเสียออกมาในลักษณะของปัสสาวะซึ่งเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญอย่างเช่นโพแทสเซียม วิตามินบี หรือแมกนีเซียม ดังนั้นร่างกายจึงเกิดการคั่งของสารแอลดีไฮด์ที่ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือดให้ลดน้อยลงไป ไม่เพียงเท่านั้นยังเข้าไปรบกวนการทำงานของสารสื่อประสาทอย่างเมลาโทนินที่ช่วยให้เรานอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มอิ่มอีกด้วย เมื่อปริมาณแอลกอฮอล์ลดลงในระดับหนึ่งจึงทำให้เรารู้สึกปวดศีรษะเป็นอย่างมาก อาการที่พบได้บ่อยหลังจากที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาเป็นจำนวนมากในเช้าวันรุ่งขึ้นคือจะรู้สึกกระหายน้ำ เนื่องจากแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายของเราเกิดอาการดีไฮเดรต เซลล์ในร่างกายขาดน้ำเราจึงรู้สึกหิวน้ำเป็นอย่างมาก มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย หมดแรง บางคนอาจรุนแรงถึงขั้นใจสั่นกันเลยทีเดียว ดังนั้นหากกังวลว่าจะเกิดอาการดังกล่าวขอแนะนำให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอดีก็จะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ ไม่เพียงเท่านั้นยังช่วยให้เรามีสติสามารถจัดการกับสิ่งรอบข้าง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดเรื่องร้ายๆ ตามมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกด้วย แก้อาการเมาค้างอย่างไรให้อยู่หมัด #ความรู้โรค #การดูแลตัวเอง #เมาค้าง
<strong>อหิวาตกโรค</strong> อดีตโรคระบาดที่จนถึงตอนนี้ก็ยังคงอันตราย

ในยุคสมัยหนึ่งประเทศไทยของเรานั้นเคยเผชิญหน้ากับโรคระบาดจนทำให้ไม่ว่าไปที่ไหนก็เต็มไปด้วยร่างของผู้เสียชีวิตจากโรคนี้เต็มไปหมด นั่นก็คือโรคห่านั่นเอง หรือที่เรารู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งอย่างเป็นทางการว่าอหิวาตกโรค โรคดังกล่าวนั้นได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากมายไม่เว้นแม้กระทั่งในประเทศไทยของเราเองก็ตาม ถึงแม้ว่ามันจะเคยเป็นโรคระบาดในอดีตและตอนนี้ดูเหมือนจะไม่น่ากลัวอีกแล้ว แต่ความจริงแล้วมันยังคงอันตรายและเราเองก็ยังต้องเฝ้าระวังโรคดังกล่าวอยู่เช่นเดียวกัน เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับโลกนี้ให้มากขึ้นกัน ทำความรู้จักกับอหิวาตกโรค อดีตโรคระบาดที่ทำให้คนเสียชีวิตทั่วทั้งโลก ถ้าในปี 2020 มีเชื้อไวรัสโควิด 19 แพร่ระบาด ย้อนกลับไปเมื่อ 200 ปีที่แล้วในช่วงปี 1820 ก็มีโรคระบาดอีกโรคหนึ่งที่ทำให้ผู้คนต้องเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกันนั่นก็คืออหิวาตกโรคหรือโรคห่าในประเทศไทยนั่นเอง โรคดังกล่าวนั้นเป็นโรคระบาดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายผ่านทางการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย มักพบในอาหารที่ไม่ถูกสุขอนามัยหรืออยู่ในแหล่งที่ไม่สะอาด สาเหตุที่ทำให้ในสมัยก่อนมีผู้คนติดโรคดังกล่าวมากกว่าในปัจจุบันเพราะคุณภาพชีวิตรวมไปถึงอาหารในยุคสมัยนี้มีสุขอนามัยที่ดีขึ้นกว่าเดิม มีความปลอดภัยและความสะอาด เรามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลความสะอาดมากขึ้น ในขณะเดียวกันเทคโนโลยีทางการแพทย์ก็ดีขึ้นด้วยทำให้โรคดังกล่าวพบได้น้อยลงอย่างสิ้นเชิง โดยอาหารที่เสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคดังกล่าวนั้นจะมีตั้งแต่น้ำรวมไปถึงอาหารที่ไม่สะอาด อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ อาหารดิบ อาหารที่มีแมลงวันตอม รวมไปถึงอาหารกระป๋องที่หมดอายุแล้ว อาการของโรคดังกล่าวนั้นจะเริ่มต้นหลังจากที่เรารับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียเข้าไปภายในร่างกาย หลังจากนั้นมันก็จะผ่านไปยังกระบวนการย่อยอาหารในลำไส้และก่อให้เกิดพิษทำปฏิกิริยาบนเยื่อบุผนังลำไส้เล็ก ทำให้ผู้ป่วยจะมีอาการท้องเสียท้องร่วงรุนแรง เวลาถ่ายอุจจาระออกมานั้นจะมีลักษณะเป็นน้ำซาวข้าวที่มีกลิ่นเหม็นคาวและมีเมือก หากท้องร่วงเป็นอย่างมากก็จะทำให้ร่างกายสูญเสียทั้งเกลือแร่และน้ำอย่างรวดเร็ว หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันการณ์ก็อาจจะทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย ป้องกันตัวเองอย่างไรให้ปลอดภัยจากโรคอหิวาตกโรค ความจริงแล้วหาคนอยากปลอดภัยจากอหิวาตกโรคในยุคปัจจุบันนั้นถือว่าง่ายกว่ายุคก่อนเป็นอย่างมาก เพียงแค่เราเลือกรับประทานน้ำและอาหารที่มีสุขอนามัยถูกต้องปลอดภัย ผลิตมาจากแหล่งที่สะอาด เป็นอาหารที่ปรุงสุกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเป็นอาหารที่ยังไม่หมดอายุ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เราปลอดภัยจากโรคห่าที่คร่าชีวิตผู้คนในอดีตไปมากมาย และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเมื่อมีอาการเจ็บป่วยท้องร่วงท้องเสียอย่างหนักควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนเพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป #อหิวาตกโรค #การดูแล #สุขภาพ
<strong>อาการคัน</strong>หลังแผลใกล้หายเกิดจากอะไรไปดูกัน

อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เราไม่คาดฝันว่ามันจะเกิดขึ้น และส่วนใหญ่มันก็มักจะนำพามาซึ่งบาดแผลแทบจะทุกครั้งไป เวลาที่เราเป็นแผลร่างกายของเราจะมีกระบวนการรักษาตัวเองอยู่แล้ว จากแผลสดกลายเป็นแผลแห้งที่ตกสะเก็ด หลังจากนั้นสะเก็ดก็จะค่อยๆ หลุดร่วงออกไปเผยผิวใหม่ของเราออกมา แต่เคยสังเกตหรือไม่ว่าเวลาที่สะเก็ดกำลังจะหลุดหมดซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เรากำลังจะหายดี มันมักจะมีอาการคันตามมาอยู่เสมอ เพราะเหตุใดเราจึงรู้สึกคันเวลาแผลใกล้หายไปดูเหตุผลกันเลย เปิดสาเหตุที่ทำให้เรามีอาการคันหลังแผลใกล้หายแล้ว การที่เรามีอาการหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลจนใกล้หายเกิดจากขั้นตอนกระบวนการสมานแผลของร่างกายเรา ขั้นตอนแรกจะเป็นการห้ามเลือด เส้นเลือดจะมีการบีบเล็กลงทำให้เลือดไหลช้ามากขึ้นกว่าเดิม เกร็ดเลือดจะเข้าไปเกาะกลุ่มกลายเป็นลิ่มเลือด หลังจากนั้นก็จะแข็งตัวกลายเป็นเส้นใย เกล็ดเลือดของเราจะทำการสร้างตาข่ายเส้นใยเพื่อดับเซลล์เม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือดให้กลายเป็นลิ่มเลือดขึ้นมา หลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอนการอักเสบ จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ร่างกายของเราทำความสะอาดแผล สิ่งสกปรกจะถูกกำจัดออกมาเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายติดเชื้อ หลังจากนั้นร่างกายของเราก็จะทำการสร้างผิวหนังและเส้นเลือดขึ้นมาใหม่ และสุดท้ายก็คือขั้นตอนการฟื้นฟูและการปรับตัวโดยซ่อมแซมเซลล์ประสาทและเซลล์ที่ถูกทำลาย ส่วนที่เรารู้สึกคันเวลาแผลใกล้หายนั้นเกิดจากสาเหตุมากมาย ส่วนหนึ่งคือในสะเก็ดแผลของเรานั้นจะมีฮีสตามีน ทำให้เรารู้สึกระคายเคืองรอบบาดแผล แพทย์หลายคนลงความเห็นว่ามันเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายในการจัดการกับสะเก็ดแผลที่ร่างกายไม่ต้องการอีกต่อไป เพราะเมื่อเกิดอาการคันเราก็จะตอบสนองด้วยการเกา ซึ่งจะทำให้สะเก็ดแผลหลุดลอกออกมา แต่บางครั้งมันก็เกิดขึ้นก่อนที่แผลจะสมานดีข้อคิดเห็นดังกล่าวจึงตกไป และยังมีอีกหนึ่งความเชื่อว่าเส้นประสาทที่ถูกทำลายนั้นหลังจากร่างกายเริ่มเยียวยาตัวเองก็จะทำให้เส้นประสาทของเรารู้สึกไวขึ้นกว่าเดิม หลังแผลหายเราก็จะได้รับสัญญาณผิดประเภทว่าเป็นความรู้สึกคันนั้นเอง บรรเทาอาการคันหลังแผลใกล้หายอย่างไรให้ปลอดภัย อาการคันหลังแผลใกล้หายเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนและมักจะเกิดขึ้นเป็นปกติอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามหากเรารู้สึกคันแล้วเกาก่อนที่แผลจะสมานตัวดีก็จะทำให้เกิดปัญหาตามมาเช่นเดียวกัน ดังนั้นเราจึงแนะนำให้บรรเทาอาการด้วยการทาครีมฆ่าเชื้อก็จะช่วยให้แผลหายเร็วมากขึ้นกว่าเดิมและยังทำให้สะเก็ดมีขนาดเล็กลงอีกด้วย ทำให้รู้สึกคันน้อยลง การปิดแผลก็จะช่วยให้ป้องกันการติดเชื้อและแผลสะอาดได้เป็นอย่างดี หรือจะใช้น้ำมันวิตามินอีในการบรรเทาอาการหรือครีมบรรเทาอาการก็ได้เช่นเดียวกัน #สุขภาพ #ความรู้ #อาการคัน
<strong>อาหารเย็น</strong> สิ่งที่ดีต่อสุขภาพแต่หลายคนกลับหลีกเลี่ยง

เวลาลดน้ำหนักสิ่งที่หลายคนมักเลือกทำก็คือกันไม่รับประทานอาหารเย็นนั่นเอง มันเป็นวิธีการที่ทรมานแต่ก็ทำได้ง่ายที่สุดแถมบางคนยังได้ผลจริงอีกด้วย แต่ความจริงแล้วมื้อเย็นนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากเพียงแต่คุณต้องรับประทานให้ไวมากขึ้นกว่าเดิม เราจึงจะพาทุกคนมาดูกันว่าการรับประทานมื้อเย็นให้ไวขึ้นจะส่งผลดีต่อร่างกายของคุณอย่างไรบ้าง รวมข้อดีในการรับประทานอาหารเย็นให้เร็วขึ้นกว่าเดิม ข้อแนะนำสำหรับการรับประทานอาหารเย็นให้ได้ประโยชน์และดีต่อสุขภาพ หากคุณรับประทานอาหารเย็นไวขึ้นแต่ตอนดึกก็รู้สึกหิวขึ้นมาอยู่ดีเราขอแนะนำว่าไม่ควรอดอาหารแต่อย่างใด เพราะแทนที่มันจะช่วยให้คุณผอมมากขึ้นกว่าเดิมหรือสุขภาพดีแต่มันกลับไปกระตุ้นให้เกิดอาการอื่นที่ส่งผลต่อสุขภาพตามมา หากคุณรู้สึกหิวในช่วงดึกให้กินอาหารอีกครั้งหรือจะลองใช้วิธีการกระจายมื้ออาหารเป็นมื้อเล็ก 5-6 มื้อก็ได้เช่นเดียวกัน ที่สำคัญคือเราต้องรับประทานอาหารในช่วงครึ่งแรกของวันให้เพียงพอก็จะช่วยลดอาการหิวดึกได้เป็นอย่างดี #สุขภาพ #ความรู้ #อาหารเย็น
อาการ<strong>หัวใจวายเฉียบพลัน</strong> อาการที่จะพรากชีวิตคุณอย่างรวดเร็ว

มนุษย์เรานั้นความจริงแล้วเป็นสิ่งมีชีวิตที่เปราะบางและพร้อมจะจากโลกใบนี้ไปทุกเวลา บางคนเห็นเดินอยู่ดีๆ ก็ล้มลงไปเสียอย่างนั้นและจากไปทั้งๆ แบบนั้นเลยก็มีเช่นเดียวกัน อย่างเช่นอาการหัวใจวายเฉียบพลันที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้ที่สามารถพรากชีวิตเราไปได้ในเสี้ยววินาทีเท่านั้น เป็นอาการที่อันตรายเป็นอย่างมาก เราจึงจะพาทุกคนมาดูกันว่าอาการอะไรที่เข้าข่ายมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคดังกล่าวและเราจะสามารถช่วยเหลือผู้ที่หัวใจวายอย่างไรได้บ้าง เปิดอาการที่เป็นสัญญาณเตือนของโรคหัวใจวายเฉียบพลัน เปิดวิธีการช่วยเหลือเมื่อพบผู้ป่วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน โรคหัวใจวายเฉียบพลันมีอาการที่ค่อนข้างน่ากลัวจนทำให้หลายคนไม่มีสติเมื่อพบผู้ป่วยโรคนี้เข้า แต่สิ่งสำคัญในการรักษาโรคนี้ก็คือความรวดเร็ว ดังนั้นเราจึงต้องตั้งสติและรีบแจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉินโดยเร็ว หากสามารถขับรถได้ขอแนะนำให้รีบขับรถพาผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลเองได้และให้โทรแจ้งโรงพยาบาลเพื่อเตรียมอุปกรณ์ความพร้อม เมื่อผู้ป่วยไปถึงจะได้รับการรักษาในทันที หากพบว่าหัวใจหยุดเต้นก็ให้รีบ CPR โดยด่วน ควรจัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่านอนหงาย เอียงหน้าไปทางฝั่งใดฝั่งหนึ่ง และคอยสังเกตอาการอยู่เสมอ #สุขภาพ #ความรู้ #โรคหัวใจ
รู้หรือไม่ มี<strong>อาหารโปรตีนสูง</strong>ไขมันต่ำที่สามารถรับประทานแทนอกไก่ได้ด้วย

สำหรับคนที่อยากจะลดน้ำหนัก ควบคุมน้ำหนัก หรือเพิ่มกล้ามเนื้อให้กับตนเองอาหารที่รับประทานส่วนใหญ่ก็จะเป็นโปรตีนที่ปราศจากไขมันโดยเฉพาะอกไก่ แต่การรับประทานอกไก่อยู่เป็นประจำทุกมื้อทุกวันมันก็ทำให้รู้สึกเบื่อได้เช่นเดียวกัน ประกอบกับรสชาติที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่เพราะเป็นส่วนที่ค่อนข้างแห้งและแข็ง พอลดน้ำหนักก็ปรุงมากไม่ได้ วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาดูกันว่าจะมีอาหารโปรตีนสูงไขมันต่ำทางเลือกอื่นเป็นอะไรบ้างที่เราสามารถรับประทานแทนอกไก่ได้ เปิดรายชื่ออาหารโปรตีนสูงไขมันต่ำให้คุณรับประทานแทนอกไก่แก้เบื่อ ใน 1 วันเราควรรับประทานอาหารโปรตีนสูงให้ได้เท่าไหร่จึงจะดีต่อสุขภาพ สำหรับคนที่ต้องการจะดูแลสุขภาพและควบคุมน้ำหนัก การรับประทานอาหารโปรตีนสูงก็นับว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากก็ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดีและไม่ทำให้อ้วนหากมีการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม โดยใน 1 วันเราควรรับประทานโปรตีนให้ได้ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม อย่างเช่นหากคุณมีน้ำหนักตัว 50 กิโลกรัมก็ควรรับประทานโปรตีนให้ได้ 50 กรัมเช่นเดียวกัน จึงจะเพียงพอต่อการเสริมสร้างกล้ามเนื้อตามความต้องการของเรา หรือหากเป็นคนที่ออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้ออยู่แล้วจะรับประทานมากกว่านั้นก็ได้เช่นเดียวกันอย่างเช่นสัดส่วน 1.5 กรัมต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม อย่างเช่นหากคุณมีน้ำหนัก 50 กิโลกรัมก็ต้องรับประทานโปรตีนให้ได้วันละ 75 กรัมเป็นต้น #สุขภาพ #อาหาร #โปรตีน
<strong>อาหารเสริม</strong> ตัวช่วยให้สุขภาพดีแต่อาจส่งผลอันตรายต่อร่างกาย

ไม่ว่าใครก็อยากจะมีร่างกายที่แข็งแรงหรือมีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดีกันทั้งนั้น แต่การที่เราจะรับประทานอาหารให้ได้สารอาหารครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการเป็นประจำทุกวันนั้นเป็นเรื่องที่แทบจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย เพราะกว่าที่สารอาหารจะครบถ้วนเราก็ได้รับพลังงานแคลอรี่ที่มากเกินพิกัดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาหารเสริมจึงกลายมาเป็นทางออกที่ช่วยให้เราได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและช่วยให้ร่างกายแข็งแรง หรืออาจช่วยให้มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดี แต่อาหารเสริมกับสามารถส่งผลอันตรายให้กับร่างกายของเราได้เช่นเดียวกันหากเรารับประทานอย่างไม่เหมาะสม และเราจะพาทุกคนมาดูกันว่าทานอาหารเสริมอย่างไรให้ปลอดภัยจากการเป็นโรค เปิดวิธีการรับประทานอาหารเสริมให้ปลอดภัยและเหมาะสม รวมอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้จากอาหารเสริม อาหารเสริมนั้นหากรับประทานอย่างไม่เหมาะสมก็อาจเกิดอันตรายได้เช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อในกระแสเลือด การทำให้ตับอักเสบเนื่องจากรับประทานมากจนเกินไป บางชนิดอาจทำให้ไอคิวต่ำลงเพราะมีการแนะนำให้รับประทานแทนอาหารหลักซึ่งไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต ไม่ว่าจะโฆษณาว่าผลิตมาจากธรรมชาติมากแค่ไหนก็ตามแต่สุดท้ายแล้วในกระบวนการผลิตก็ยังคงมีสารเคมีเจือปนอยู่ดี ร่างกายเราต้องทำการขับสารเหล่านี้ออกซึ่งทำให้ตับและไตมีโอกาสเสื่อมหรืออักเสบมากขึ้น #สุขภาพ #การดูแลตัวเอง #อาหารเสริม
<strong>ต้อลม</strong> อาการเจ็บป่วยที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุเพียงอย่างเดียว

หลายคนอาจมองว่าโรคที่เกี่ยวกับตานั้นเป็นโรคที่มักเกิดกับผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่ สำหรับเด็กหรือวัยรุ่นนั้นโอกาสเสี่ยงจะเป็นโรคเหล่านี้มีน้อยนิดกว่ามากจนแทบไม่ต้องเฝ้าระวังเลยก็ได้ แต่ด้วยวิถีชีวิตในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงกับการที่เรานั้นใช้ชีวิตอยู่หน้าจอตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นจอคอมพิวเตอร์ จอโทรทัศน์ หรือแม้แต่จอโทรศัพท์มือถือก็ตาม โอกาสที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาก็เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะโรคต้อลมที่เราจะพาทุกคนมารู้จักกันในวันนี้นั่นเอง ทำความรู้จักกับโรคต้อลม โรคที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย หากคุณใช้สายตาอยู่ดีๆกับมีอาการแสบเคืองตาหรือตาแห้ง มันอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังป่วยเป็นโรคต้อลมอยู่ก็ได้เช่นเดียวกัน โรคดังกล่าวนั้นเกิดจากเยื่อบุตาขาวเกิดอาการเสื่อม ทำให้มีลักษณะเป็นก้อนเนื้อนูนขึ้นมาบนดวงตาเป็นสีขาวหรือสีเหลือง ส่วนใหญ่แล้วจะมีขนาดเล็กอยู่บริเวณตาขาวใกล้กับหัวตาหรือหางตา แต่ส่วนใหญ่จะพบบริเวณใกล้กับหัวตามากกว่า มันไม่ใช่เนื้องอกแต่อย่างใด แต่ก็ไม่สามารถปล่อยทิ้งไว้ได้เช่นเดียวกันเพราะมันจะมีขนาดใหญ่ขึ้นและอาจจะลุกลามมาบดบังตาดำจนทำให้วิสัยทัศน์การมองเห็นของเราแย่ แถมยังสามารถพัฒนากลายเป็นต้อเนื้อในอนาคตได้อีกด้วย สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคดังกล่าวไม่ได้มีแค่ลมเพียงอย่างเดียวแต่อย่างใด แต่ยังมีอีกหลากหลายสาเหตุเลยทีเดียวอย่างเช่นการได้รับรังสี UV จากหลอดไฟหรือแสงแดดอยู่เป็นประจำ การได้รับฝุ่นควันหรือมลภาวะทางอากาศ อากาศร้อนหรือความร้อนจากการทำงานที่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง การที่คุณเป็นคนตาแห้งอยู่แล้วแล้วทำงานอยู่หน้าจอโดยที่ไม่ได้พักสายตา การสวมใส่คอนแทคเลนส์อยู่เป็นประจำโดยเฉพาะคอนแทคเลนส์ที่มีค่าอมน้ำต่ำ สิ่งเหล่านี้จะสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคดังกล่าวได้มากขึ้นกว่าเดิมทั้งหมด หากคุณมีอาการเหล่านี้เราขอแนะนำให้รีบไปพบกับจักษุแพทย์โดยด่วนเพื่อทำการรักษาก่อนที่มันจะลุกลามใหญ่โตและพัฒนาไปเป็นโรคอื่นที่รักษายากกว่าเดิม แพทย์จะพิจารณาให้หยอดตาหรือมีการพักใช้สายตาให้น้อยลง ลดการใส่คอนแทคเลนส์ หรือหากอาการหนักก็อาจจะใช้วิธีการผ่าตัดลอกต้อออกก็ได้เช่นเดียวกัน อาการที่เป็นสัญญาณเตือนว่าคุณอาจกำลังเป็นโรคต้อลม สำหรับใครที่กังวลว่าตัวเองเป็นโรคต้อลมหรือไม่ให้สังเกตว่ามีอาการเหล่านี้หรือเปล่าไม่ว่าจะเป็นรู้สึกแสบเคืองตา มีน้ำตาไหลออกมาโดยที่ไม่ได้เศร้า มีก้อนเนื้อขนาดเล็กเป็นเยื่อเหมือนกับเยลลี่สีเหลืองอ่อนหรือสีใสบริเวณหูเยื่อบุตาขาวใกล้กับหัวตาหรือหางตา มีอาการตาแดงเป็นพิเศษ เวลาใช้สายตาในบริเวณที่อากาศร้อนหรือมีแดดแรง มีฝุ่นเยอะ โดนลม จะทำให้อาการแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด หรือหนักสุดก็คือก้อนเนื้อได้ขยายไปถึงดวงตาดำจนทำให้การมองเห็นลดลง มองเห็นภาพเบลอ มีความมัว มองแล้วไม่ชัดเจนเหมือนปกติ #สุขภาพ #การดูแลตัวเอง #ต้อลม