<strong>งดมื้ออาหาร</strong> วิธีการลดน้ำหนักที่ส่งผลดีต่อร่างกายของคุณ

ในปัจจุบันการลดน้ำหนักนั้นมีมากมายหลากหลายวิธีเสียเกินที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราสามารถลดน้ำหนักได้อย่างง่ายดายและตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตมากขึ้น อย่างเช่นการงดมื้ออาหารหรือการทำ IF ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมันเป็นการอดอาหารที่สามารถทำได้ง่าย ต่อให้ไม่ออกกำลังกายก็ช่วยคุณน้ำหนักลงได้มากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้มันยังมีผลดีต่อร่างกายมากกว่าที่คุณคิดอีกด้วย จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย รวมประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการลดน้ำหนักด้วยการงดมื้ออาหาร การงดมื้ออาหารหรือการทำ IF นั้นส่งผลดีต่อร่างกายของคุณมากกว่าแค่การลดน้ำหนักเพียงอย่างเดียว มีข้อมูลในวารสารทางการแพทย์อย่าง THE NEW ENGLAND JOURNAL OF MEDICINE เปิดเผยว่าการทำ IF นั้นจะสามารถช่วยลดอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี ซึ่งมันเป็นต้นตอของโรคภัยไข้เจ็บมากมายโดยเฉพาะโรคมะเร็ง สามารถลดอาการอักเสบซ่อนเร้นภายในร่างกายซึ่งจะสามารถพัฒนาการเป็นโรคมะเร็งได้เช่นเดียวกัน ช่วยให้ร่างกายสามารถตอบสนองกับอินซูลินได้ดีขึ้นกว่าเดิม ยกเว้นผู้ที่มีภาวะร่างกายดื้ออินซูลินอาจทำให้เสี่ยงกับโรคเบาหวานเช่นเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ช่วยให้ยีนส์ดีบางตัวสามารถแสดงออกได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะสารที่เข้าไปส่งเสริมการทำงานของสมองทำให้เราฉลาดและหัวไวมากขึ้น ความจำดีขึ้น ร่างกายสามารถซ่อมแซม DNA ได้มากขึ้นกว่าเดิม สามารถจัดการกับเซลล์ที่ไม่ได้ใช้งานได้ดี บางส่วนที่ใช้ได้จะมีการนำมาใช้ใหม่ทำให้ร่างกายสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สามารถป้องกันความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และภาวะน้ำหนักเกิน แต่ถึงอย่างนั้นเราต้องบอกก่อนว่ารายงานดังกล่าวนั้นเป็นการวิจัยที่มีระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี ดังนั้นเราจึงอาจยังต้องติดตามผลการวิจัยทางการแพทย์ต่อไปในอนาคตว่าความจริงแล้วการทำ IF นั้นส่งผลดีหรือผลเสียต่อสุขภาพกันแน่ สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนลดน้ำหนักด้วยการงดมื้ออาหาร การงดมื้ออาหารหรือการทำ FASTING ที่หลายคนรู้จักกันในชื่อเล่นว่า IF นั้นจะเกิดประโยชน์ได้ก็ต่อเมื่อเรามีการอดอาหารตั้งแต่ 8 ชั่วโมงขึ้นไปจนถึง 12 ชั่วโมง ไม่สามารถอดน้อยกว่านี้ได้ ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเราไม่สามารถรับประทานอะไรที่ให้พลังงานได้เลยแม้แต่น้อย […]
<strong>ดอกเล็บสีขาว</strong> สิ่งที่กำลังบ่งบอกว่าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพเล็บ

หากคุณสังเกตให้ดีจะพบว่าบนเล็บของเรานั้นสามารถบ่งบอกถึงสุขภาพได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แต่ในขณะเดียวกันเองสุขภาพเล็บก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญเช่นเดียวกัน เพราะเล็บนั้นเป็นอวัยวะที่ช่วยปกป้องเนื้อเยื่อส่วนที่เปราะบางบนนิ้วของเราให้ปลอดภัย หากเล็บมีปัญหาก็จะทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดได้ไม่น้อยเช่นเดียวกัน และหากเราไม่ดูแลให้ดีก็จะเกิดปัญหาที่ทำให้เราต้องรับการรักษาตามมาอีกด้วย หนึ่งในสิ่งที่กำลังเป็นสัญญาณบอกว่าเรามีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพและก็คือดอกเล็บสีขาวนั่นเอง มันคืออะไรและบอกอะไรกับเราบ้างไปดูกัน ดอกเล็บสีขาวเกิดจากอะไรและบอกอะไรกับเราบ้างไปดูกัน ดูแลรักษาสุขภาพเล็บอย่างไรไม่ให้เป็นดอกเล็บสีขาว หากคุณไม่ต้องการให้มีดอกเล็บสีขาวก็ต้องดูแลสุขภาพเล็บให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่โดยเฉพาะวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกาย รักษาเมื่อได้รับอุบัติเหตุอยู่เสมอ กรอบด้วยการทาเล็บก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีเช่นเดียวกัน หากเป็นเชื้อราให้ใช้ยาต้านเชื้อราซึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้ในระยะเวลาประมาณ 3 เดือน นอกจากนี้การหลีกเลี่ยงตัวยาที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ก็ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดดอกเล็บได้อีกด้วย #การดูแลตัวเอง #เล็บสีขาว #สุขภาพ
<strong>ดื่มกาแฟ</strong>ก็ดีต่อสุขภาพได้ ไม่ได้มีแค่ผลเสียอย่างเดียว

เราอาจจะเคยได้ยินกันมานักต่อนักว่าเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนนั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างเช่นชา กาแฟ หรือน้ำอัดลมเป็นต้น แต่สำหรับกาแฟนั้นความจริงแล้วพวกเขาไม่ได้มีเพียงแค่ผลเสียอย่างไร แถมยังจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วยซ้ำไปหากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าเราจะสามารถดื่มกาแฟอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพได้บ้าง รวมวิธีการดื่มกาแฟอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ ดื่มกาแฟให้ได้ผลต้องนอนหลับก่อน บางทีเราดื่มกาแฟเข้าไปมันก็ไม่ได้ช่วยให้เรารู้สึกกระปรี้กระเปร่าหรือตื่นจากความง่วงขึ้นมา นั่นก็เป็นเพราะว่าคาเฟอีนไม่ได้มีฤทธิ์ในการกระตุ้นร่างกายถึงขนาดนั้นแต่อย่างใด ต้องใช้เวลากว่า 30 นาทีกว่าที่มันจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นก่อนที่เราจะใช้กาแฟในการปลุกให้เราตื่นอย่างกระปรี้กระเปร่า เราควรนอนหลับอย่างน้อยประมาณ 15 นาทีถึงครึ่งชั่วโมงหลังจากที่ดื่มไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะช่วยให้เราตื่นเต็มตามากขึ้นกว่าเดิม #ทริคไม่ลับ #ดื่มกาแฟ #สุขภาพ
<strong>ไขมันพอกตับ</strong> ภัยเงียบที่คนไทยหลายคนต้องเผชิญ

คนไทยเรานั้นส่วนใหญ่แล้วเป็นสายปาร์ตี้ที่ชื่นชอบออกไปดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสนุกสนานอย่างเต็มที่ในช่วงเวลากลางคืน บางครั้งไม่กลางคืนเราก็ยังสามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้กับชีวิตได้ แต่อย่างไรก็ตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสมและไม่ถูกต้องซักเท่าไหร่อาจทำให้เราต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพที่ยากจะแก้ไขในอนาคต โดยเฉพาะปัญหาไขมันพอกตับที่สายดื่มทั้งหลายอาจเคยเผชิญหน้ากับพวกมันมาแล้ว เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับภัยเงียบที่คนไทยหลายคนต้องเผชิญกันหรือว่ามันคืออะไรและอันตรายมากแค่ไหน ทำความรู้จักกับโรคไขมันพอกตับ โรคที่สามารถเกิดขึ้นได้จากพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไขมันพอกตับเป็นปัญหาสุขภาพที่พบเจอได้บ่อยในคนไทย อาการที่อธิบายให้เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือมีการพบว่าไขมันจำนวนหนึ่งเกาะอยู่บริเวณด้านนอกของตา ซึ่งไขมันดังกล่าวนั้นเกิดจากปริมาณน้ำตาลในร่างกายที่สูงกว่าปกติที่ตับมีการสร้างออกมา ส่งผลให้มีภาวะตับทำงานผิดปกติและมีไขมันเกาะอยู่บริเวณเนื้อของตับนั่นเอง ผู้ที่มีความเสี่ยงจะเป็นภาวะดังกล่าวนั้นจะประกอบไปด้วยผู้ที่มีน้ำหนักเกินกว่ามาตรฐานผู้ที่รับประทานอาหารประเภทน้ำตาล คาร์โบไฮเดรต และไขมันเลวอยู่เป็นประจำอย่างเช่นอาหารทอดอาหารมัน น้ำหวาน น้ำอัดลม ขนมปัง เบเกอรี่ ผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลังกายจนมีอัตราเผาผลาญพลังงานต่ำ ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมไปถึงสูบบุหรี่อยู่เป็นประจำ นอกจากพฤติกรรมเหล่านี้แล้วยังสามารถเกิดขึ้นได้จากผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้วอย่างเช่นผู้ป่วยความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง ผู้ที่ต้องรับประทานยาติดต่อกันเป็นเวลานานโดยเฉพาะยาฮอร์โมนทดแทนและยาในกลุ่มสเตียรอยด์ สามารถพบได้บ่อยในกลุ่มคนวัยกลางคนตั้งแต่อายุ 45 ปีไปจนถึง 50 ปีซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของเรามีระบบเผาผลาญพลังงานต่ำลง อาการที่เกิดขึ้นนั้นไม่ค่อยพบเห็นสักเท่าไหร่เราจึงเรียกมันว่าภัยเงียบ เนื่องจากในระยะแรกนั้นเราจะไม่รู้สึกถึงอาการเจ็บป่วยเลยแม้แต่น้อย ต้องรอจนถึงตับอักเสบที่เราจะเริ่มรู้สึกปวดเมื่อยตามตัว เบื่ออาหาร รู้สึกอ่อนเพลียอยู่ตลอดเวลา มีไข้ต่ำ คลื่นไส้อาเจียน อาจมีอาการปวดท้องใต้ชายโครงขวาร่วมด้วย หากอักเสบหนักก็จะมีอาการใกล้เคียงกับโรคดีซ่านนั่นก็คือตัวเหลืองตาเหลือง อุจจาระมีสีซีดแต่ปัสสาวะมีสีเข้ม ป้องกันอย่างไรให้ปลอดภัยจากโรคไขมันพอกตับ หากคุณไม่ต้องการเป็นโรคไขมันพอกตับก็มีวิธีการป้องกันมากมายไม่ว่าจะเป็นการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารโดยหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันเลว น้ำตาล และคาร์โบไฮเดรต อย่างเช่นของปิ้งของทอด ขนมเบเกอรี่ เครื่องดื่มน้ำตาลสูง หันมาออกกำลังกายอยู่เป็นประจำอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ ลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เข้าตรวจสุขภาพประจำปีอยู่เสมอ หากมีความจำเป็นในการรับประทานยาให้ปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีการหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาเกี่ยวกับตับในอนาคต #การดูแลตัวเอง #สุขภาพน่ารู้ […]
<strong>เกล็ดเลือดต่ำ</strong> ปัญหาสุขภาพที่ทำให้คุณมักมีรอยฟกช้ำ

เคยเป็นกันหรือไม่เวลาที่สำรวจไปตามร่างกายแล้วมักจะพบว่าตนเองมีรอยฟกช้ำดำเขียวอยู่เต็มไปหมดโดยที่เราไม่ได้ไปกระแทกกระทั้นจนทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ปัญหาเกิดจากการที่คุณมีเกล็ดเลือดต่ำนั่นเอง การที่เรามีภาวะจำนวนเกร็ดเลือดน้อยกว่าคนปกตินั้นไม่นับว่าเป็นอาการป่วยแต่เป็นภาวะที่เกิดมาจากโรคอื่น ดังนั้นจึงควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษากันต่อไป เราจึงจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับภาวะดังกล่าวให้มากขึ้นกัน ทำความรู้จักกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำ สาเหตุของรอยฟกช้ำไร้ที่มาบนร่างกาย ภาวะเกล็ดเลือดต่ำนั้นเกิดจากการที่เรามีเกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติ สามารถสังเกตได้อย่างง่ายดายเวลาที่เรามีบาดแผลเลือดออกจะมีเลือดออกง่ายมากและการห้ามเลือดก็ทำได้ยากกว่าคนทั่วไป มักพบเลือดออกบริเวณตามเยื่อบุอย่างเช่นเลือดกำเดาหรือเลือดออกตามไรฟัน นอกจากนี้ยังจะมีรอยฟกช้ำใต้ชั้นผิวหนังถึงแม้ว่าจะไม่มีการกระแทกมาก่อนก็ตาม สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคดังกล่าวนั้นมีมากมายไม่ว่าจะเป็นการป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของไขกระดูกอย่างเช่นโรคไขกระดูกฝ่อ เป็นโรคที่สามารถเป็นได้ตั้งแต่เกิดหรือเป็นในภายหลัง เกิดจากการที่เราสัมผัสกับยาฆ่าแมลงหรือสารเคมีเป็นประจำ รวมไปถึงการติดเชื้อไวรัสบางกลุ่มที่ทำให้เกิดความผิดปกติขึ้นอย่างเช่นการป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือสาเหตุอื่นอย่างเช่นการรับยาบางชนิดหรือการติดไวรัสที่ทำให้ไขกระดูกไม่สามารถสร้างเกล็ดเลือดได้ตามปกติ อีกหนึ่งสาเหตุก็คือการที่เกร็ดเลือดของเราถูกทำลายหรือถูกใช้มากกว่าในช่วงเวลาปกติอย่างเช่นเวลาที่เราได้รับวัคซีนหรือร่างกายติดเชื้อไวรัสจนทำให้ภูมิคุ้มกันทำลายเกล็ดเลือด การป่วยเป็นโรคผิดปกติเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน การที่เกร็ดเลือดต้องถูกดึงมาใช้งานเพื่อหยุดเลือดเมื่อมีแผลเหวอะหวะจนเลือดออกรุนแรงหรือร่างกายของเราติดเชื้ออย่างหนัก ยังรวมไปถึงการเป็นเนื้องอกหลอดเลือดในบางชนิดซึ่งมักจะพบก้นสีแดงช้ำด้วยเช่นเดียวกัน รวมสัญญาณที่กำลังบ่งบอกว่าคุณมีปัญหาภาวะเกล็ดเลือดต่ำ สัญญาณที่สามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเรามีปัญหาเกล็ดเลือดต่ำนั้นมีตั้งแต่การที่เลือดออกได้อย่างง่ายดายตามเยื่อบุทั้งหลาย อย่างเช่นแปรงฟันแล้วมีเลือดออกตามไรฟัน มีเลือดกำเดาไหลมากกว่าปกติ เวลาที่เป็นแผลจะสามารถห้ามเลือดได้ยากและมีเลือดออกเป็นจำนวนมาก มักพบจุดจ้ำเลือดบริเวณใต้ชั้นผิวหนังอยู่เสมอ สำหรับใครที่พบสัญญาณเหล่านี้อยู่เป็นประจำควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาโดยเร่งด่วน #เกล็ดเลือดต่ำ #การดูแลตัวเอง #ความรู้เรื่องโรค
วิธีเลือกทานอาหารเสริม เพื่อสุขภาพที่ดี

ในปัจจุบันนี้หลายคนหันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพกันมากขึ้น และด้วยเวลาที่เร่งรีบอย่างในทุกวันนี้ที่ผู้คนต้องทำสิ่งต่างๆ แข่งขันกับเวลา ทำให้มีเวลาในการดูแลสุขภาพน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอาหารการกินหรือแม้แต่การออกกำลังกาย ทำให้หลายคนหันมาหาตัวช่วยอย่างอื่น นั้นก็คือการรับประทานอาหารเสริมที่มีสรรพคุณต่างๆ ในการช่วยบำรุงและฟื้นฟูสุขภาพร่างกาย จึงทำให้มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมออกมาจำหน่ายอย่างมากมายหลากหลายชนิด และแต่ละชนิดก็มีสรรพคุณหลายอย่างที่มีประโยชน์และสามารถช่วยบำรุงรักษาสุขภาพของเราให้สมบูรณ์แข็งแรง แต่ถ้าจะให้ได้ผลอย่างที่เราต้องการกันจริงๆ เราควรเลือกรับประทานอาหารเสริมที่มีคุณภาพดีและมีสรรพคุณอย่างที่ระบุไว้จริงๆ กันด้วย แล้วจะเลือกอย่างไรหลายคนอาจจะยังไม่ทราบ วันนี้เรามีวิธีมาฝากกัน สำหรับวิธีในการเลือกนั้น พอจะสรุปเป็นข้อๆ ได้ดังนี้ 1. เลือกสรรพคุณให้ตรงกับความต้องการของเราว่าเราต้องการบำรุงในเรื่องใด เช่น ช่วยในการลดน้ำหนัก เผาพลาญไขมัน ช่วยในการบำรุงผิว หรือช่วยในเรื่องของการรักษาสุขภาพ เป็นต้น 2. ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ เป็นที่ยอมรับของคนโดยทั่วไป หรือเป็นยี่ห้อที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง และมีเครื่องหมายรับรองจากองค์การอาหารและยา หรือ อย. ว่าปลอดภัยสามารถใช้รับประทานได้ 3. ควรมีแหล่งผลิตและสถานที่จัดจำหน่ายระบุไว้อย่างชัดเจนในตัวผลิตภัณฑ์ และต้องเป็นแหล่งที่เชื่อถือได้ด้วยเช่นกัน หรือมีตัวตนอยู่จริงมีสถานที่จริง สามารถเข้าไปตรวจสอบหรือดูขั้นตอนต่างๆ ในการผลิตได้ 4. นอกจากนี้ที่ตัวผลิตภัณฑ์ควรมีสรรพคุณต่างๆ บอกไว้อย่างละเอียด รวมทั้งส่วนผสมต่างๆ อย่างครบถ้วนและชัดเจน และควรมีวันที่ผลิตรวมไปถึงวันหมดอายุกำกับเอาไว้ด้วย 5. สำหรับเด็กและคุณแม่ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ ถ้าคิดจะรับประทานอาหารเสริมควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง ไม่ควรเลือกอาหารเสริมรับประทานเอง 6. ขณะรับประทานอาหารเสริมถ้าเกิดมีอาการข้างเคียงต่างๆ เช่น มีอาการใจสั่น เวียนหัว […]